กองสลากเตือนผู้ค้ารับลอตเตอรี่ไปเยอะระวังขายไม่หมด – ครม.เคาะเกณฑ์การออกสลากการกุศลใหม่ วงเงิน 1 หมื่นล้าน

กองสลากเตือนขายหวยไม่หมด – เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การจำหน่ายและออกรางวัลสลากฯ งวดวันที่ 1 ส.ค. 2564 ยังคงดำเนินการตามปกติ ผู้ค้าสลากจำหน่ายสลากได้ตามเดิม เช่นเดียวกับการออกรางวัลจะยังออกตามกำหนดวันที่ 1 ส.ค. 2564 ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ขอให้ผู้ที่รับสลากไปจำหน่าย ตระหนักถึงกำลังซื้อของประชาชนในพื้นที่ที่รับสลากไปจำหน่ายด้วย เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขายไม่หมด

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กระจายเป็นวงกว้าง สำนักงานสลากฯ ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ค้าและผู้ซื้อสลากฯ โดยขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตัวตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การเว้นระยะห่างทางสังคม การงดการรวมตัว หรือเข้าไปจำหน่ายในพื้นที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น เช่นเดียวกับขั้นตอนการจัดพิมพ์ การออกรางวัล การกระจายสลากฯ การขึ้นรางวัลก็มีการใช้มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้น

นอกจากนี้ ในขั้นตอนการออกรางวัล สำนักงานสลากฯ ยังดำเนินแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการจำกัดจำนวนผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ออกรางวัล พร้อมกับทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ออกรางวัลด้วยน้ำยาทำความสะอาดและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ รวมถึงการจัดสถานที่เว้นระยะห่างทางสังคม เจ้าหน้าที่ทุกคนรวมถึงกรรมการออกรางวัลจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาด ตลอดจนมีการตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิของผู้เข้าร่วมทั้งหมด

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับปรุงหลักการและแนวทางการออกสลากการกุศลใหม่ เนื่องจากปัจจุบันสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้จัดพิมพ์ จัดจำหน่าย และจ่ายเงินสนับสนุนโครงการสลากการกุศลให้กับหน่วยงานต่างๆ ตามมติ ครม.วันที่ 13 ธ.ค. 2561 และ 9 เม.ย. 2562 รวม 16 โครงการ วงเงิน 7,988 ล้านบาทเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อให้การพิจารณาการออกสลากการกุศลครั้งต่อไปเป็นไปอย่างเหมาะสม มีความรอบคอบ ชัดเจนและเกิดประโยชน์ รวมทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์และข้อเท็จจริงในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาโครงการออกสลากการกุศลขึ้น โดยให้รมว.คลังเป็นประธาน รองปลัดกระทรวงการคลังเป็นรองประธานและคณะกรรมการ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และให้ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นเลขานุการ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งฯ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ทำหนาที่กำหนดแนวทางการออกสลากการกุศลภายใต้กรอบที่ ครม.อนุมัติ

สำหรับหลักเกณฑ์ที่กำหนด หน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนได้ ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ รวมถึงสภากาชาดไทย มูลนิธีที่จดทะเบียนตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ภายใต้ลักษณะของโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาด้านสาธารณสุข การป้องกันและบรรเทาโรคติดต่ออันตราย หรือการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม รวมถึงโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในวงกว้าง รวมทั้งไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐ หรือไม่รับการจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ และไม่มีการดำเนินงานซ้ำซ้อนกับโครงการที่เสนอขอรับเงินงบประมาณจากภาครัฐทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งไม่มีลักษณะแป็นเงินหมุนเวียนเพื่อการใช้ในการบริหารจัดการหรือดำเนินกิจกรรมส่งเสริมทั่วไป และ ไม่เคยได้รับการสนับสนุนการออกสลากการกุศลมาก่อน

ทั้งนี้ กำหนดให้การพิมพ์สลากการกุศลไม่เกินงวดละ 11 ล้านฉบับ และวงเงินสนับสนุนโครงการไม่เกินโครงการละ 1,000 ล้านบาทและโครงการที่ขอออกสลากการกุศลในแต่ละครั้งจะต้องมีวงเงินรวมไม่เกินครั้งละ 10,000 ล้านบาท ส่วนการออกสลากการกุศลครั้งถัดไป จะดำเนินการภายหลังสำนักงานสลากฯออกสลากการกุศลครบวงเงินจำนวนตามที่ ครม.อนุมัติในครั้งนี้ก่อน สำหรับการยื่นขอรับการสนับสนุนจะมีกาประชาสัมพันธ์กำหนดระยเวลาการยื่น บนเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจและสำนักงานสลากกินแบ่งฯ โดยสัดส่วนรายได้จากการจำหน่าย จะแบ่ง 60% เป็นเงินรางวัล ไม่เกินกว่า 22.5% เป็นเงินรายได้ที่ให้หน่วยงานที่ขอรับสนับสนุน และ 0.5% เป็นภาษีการพนัน ส่วนอีก 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารและจัดจำหน่าย ซึ่งกรณีมีเงินคงเหลือให้ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน