สรรพากรแจง! ปมส่งหนังสือแจ้งเตือนเงินได้ ถึงพ่อค้าแม่ค้าร่วม ‘คนละครึ่ง’ ชี้แค่แจ้งเตือนผู้ประกอบการว่ามีเงินได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดและมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ เท่านั้น

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.64 เพจ สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station เผยแพร่ข่าวสรรพากรชี้แจงประเด็นเรื่องการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของผู้ค้าขาย โดยระบุว่า

ตามที่มีข่าวในสื่อออนไลน์ว่านายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ระบุมีข้อกังวลเรื่องภาษีของผู้ค้าขาย เนื่องจากกรมสรรพากรส่งแบบประเมินภาษีปี 2563 ให้พ่อค้าแม่ค้าที่เข้าร่วมโครงการของรัฐบาล เช่น “คนละครึ่ง” แต่ได้รับในปี 2564 ทำให้เข้าใจผิดว่าถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง อีกทั้งโครงการประเภทนี้เป็นโครงการระยะสั้น เป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงไม่ควรประเมินรายได้ภาษีในส่วนนี้นั้น

นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ดังนี้

1.ในการประกอบกิจการในปี 2563 ผู้ประกอบกิจการที่เป็นบุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการของรัฐหรือไม่ หากผู้ประกอบการมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ก็มีหน้าที่ต้องนำรายได้มายื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564 อย่างไรก็ดี กรมสรรพากรได้ขยายเวลาการยื่นแบบฯ จากวันที่ 31 มีนาคม 2564 ไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องของผู้ประกอบการ

2.กรมสรรพากรได้ทำการส่งจดหมายแจ้งเตือนผู้มีเงินได้ให้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่ให้หลงลืม เพื่อผู้ประกอบการจะได้ไม่มีภาระเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม กรณียื่นแบบภาษีเงินได้ล่าช้ากว่ากำหนด

3.การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นการประเมินตนเองของผู้ประกอบการ ซึ่งมีหน้าที่นำรายได้ที่ได้รับจากการประกอบการกิจการมายื่นเสียภาษีตามข้อเท็จจริง ส่วนพยานหลักฐานที่จะพิสูจน์การมีรายได้ ก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของการประกอบกิจการ เช่น ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องมีหลักฐาน การออกใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น สำหรับหลักฐานบัญชีเงินฝากธนาคาร เป็นเพียงข้อเท็จจริงหนึ่ง ที่จะทำให้ผู้ประกอบการรับรู้ถึงรายได้ของตนเองเท่านั้น นอกจากนั้นกรมสรรพากรได้พัฒนากระบวนการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ในการจดทะเบียน ยื่นแบบภาษี ชำระภาษี และคืนภาษี ทุกขั้นตอนผ่านระบบ Tax from Home ซึ่งเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ ผ่านทางเว็บไซด์กรมสรรพากร www.rd.go.th

4.กรมสรรพากร ขอยืนยันว่า การที่กรมฯ ส่งหนังสือไปแจ้งเตือนผู้ประกอบการ ไม่ได้มีเป้าหมายจะเรียกเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลโดยเฉพาะแต่อย่างใด แต่เป็นการแจ้งเตือนผู้ประกอบการว่าท่านมีเงินได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดและมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ เท่านั้น และไม่ได้เป็นการประเมินภาษีแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน