คมนาคม เคาะค่าโดยสารแท็กซี่ป้ายดำผ่านแอพพลิเคชั่น สตาร์ทแพง 40-150 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ รถติดคิดนาทีละ 2 บาท คาดพ.ย.นี้ เริ่มให้บริการ

เมื่อวันที่ 1ต.ค.64 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงนามในกฎกระทรวงว่า ด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือแท็กซี่ป้ายดำ จำนวน 5 ฉบับ เรียบร้อยแล้ว ทำให้กรมการขนส่งทางบก มีความพร้อมที่จะเปิดให้บริษัทผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นที่สนใจยื่นขออนุญาต และขอการรับรองจาก ขบ.ตั้งแต่วันนี้ (1ต.ค.) เป็นต้นไป

คาดว่าขบ.จะใช้เวลาในการพิจารณาความถูกต้องภายใน 30 วัน หากผ่านการพิจารณาคาดว่า ภายในเดือนพ.ย. นี้ จะเริ่มเปิดให้บริการเรียกรถแท็กซี่ป้ายดำผ่านแอพพลิเคชั่นแบบถูกกฎหมายได้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีแท็กซี่ป้ายดำสนใจเข้าร่วมแอพพลิเคชั่นราว 1 หมื่นคัน โดยขบ.จะประเมินความพึงพอใจจากประชาชนคู่ขนานกับไปด้วย

สำหรับอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น (สตาร์ทมิเตอร์) แท็กซี่ที่เรียกผ่านแอพฯ จะอยู่ระหว่าง 40-150 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถว่า เป็นขนาดเล็กขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ ส่วนอัตราค่าโดยสารตามระยะทางหรือค่าโดยสารระยะทางเกินกว่า 2 กิโลเมตรแรก คิดกิโลเมตรละ 6-16 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ ขณะที่อัตราค่าโดยสารขณะรถจอดนิ่ง หรือรถติดคิดอัตรา ไม่เกิน 2 บาท/นาที โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการเรียกเก็บค่าเรียกรถได้ในอัตราไม่เกิน 20 บาท

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า แอพลิเคชั่นดังกล่าวจะจัดระบบการเรียกรถไว้ตามหมวดหมู่ โดยจะจัดให้รถแท็กซี่สาธารณะ อยู่ในอันดับแรก รองลงคือรถประเภทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เชื่อว่าจะมีบริษัทผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นที่สนใจยื่นเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจากการเปิดรับฟังความเห็นก่อนหน้านี้ พบว่ามีเจ้าของแอพลิเคชั่นจำนวน 6 บริษัทที่แสดงความสนใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สั่งการให้ขบ. ขยายการจัดทำแอพพลิเคชั่นไปยังรถจักรยายนต์ด้วย

ด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี กล่าวว่า ตามขั้นตอนเจ้าของแอพพลิเคชั่นจะต้องยื่นเรื่องขออนุญาติไปไปยัง ขบ. โดยจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด คือเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย, มีทุนจดทะเบียน ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท, มีสถานที่ประกอบการในไทย, มีความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนการได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ให้บริการระบบ GPS ตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก จากนั้นขบ.จะใช้เวลาพิจารณาแอพลิเคชั่นหากเป็นไปตามหลักเกณฑ์จะพิจารณาอนุญาตคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับอัตราค่าโดยสารจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ตามประเภทของรถ คือ รถยนต์รับจ้างขนาดเล็ก ระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก 40-45 บาท ระยะทางเกินกว่า 2 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 6-10 บาท

2. รถยนต์รับจ้างขนาดกลาง ระยะทาง2กิโลเมตรแรก 45-50 บาท ระยะทางเกินกว่า 2กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 7-12 บาท และรถยนต์รับจ้างขนาดใหญ่ ระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก 100-150 บาท ระยะทางเกินกว่า 2 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 12-16บาท








Advertisement

สำหรับผู้ให้บริการแอพลิเคชั่นในไทยในปัจจุบัน เช่น บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด (Grab) ทุนจดทะเบียน 2,879 ล้านบาท, บริษัท เพอร์พิล เวนเจอร์ จำกัด (Robinhood) ทุนจดทะเบียน 900 ล้านบาท, บริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่(ประเทศไทย) จำกัด (Food Panda) ทุนจดทะเบียน 204 ล้านบาท, บริษัท เวล็อคซ์ ดิจิตอล จำกัด (Gojek) ทุนจดทะเบียน 104 ล้านบาท และบริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน