ปตท. เกาะติดราคาน้ำมันต่อเนื่อง รับแบกค่าการตลาดต่ำสุด มองเคลื่อนไหวอยู่ระดับ 80 เหรียญ/บาร์เรล ไปถึงสิ้นปี

ปตท. เกาะติดราคาน้ำมัน – นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ยังคงติดตามแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการประชุมโอเปก ที่ประชุมกันบ่อยขึ้นทุกเดือน ล่าสุดที่ประชุมองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออกและประเทศพันธมิตร (โอเปกพลัส) ยังคงกำลังการผลิตที่ 4000,000 บาร์เรลต่อวัน สำหรับเดือนพ.ย. 2564 ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในช่วงสิ้นปีนี้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

โดย ปตท. ได้ลดการเก็บค่าการตลาดลงเพื่อทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศจำหน่ายในราคาไม่เกิน 30 บาท ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมัน แม้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวเป็นการดำเนินงานเพียงระยะสั้น จนถึงสิ้นเดือนต.ค.นี้ จะมีการขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากราคาน้ำมันในช่วงนี้ผันผัวนมีทั้งขึ้นและลงตลอดเวลา

ด้านนายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. กล่าวว่า ค่าการตลาดปัจจุบันที่บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ เก็บอยู่ในช่วงเดือนต.ค. นี้ ถือว่าต่ำที่สุดในตลาดแล้ว ซึ่ง ปตท. ได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือในส่วนนี้ภายใต้คาดการณ์ภาพรวมราคาน้ำมันดิบในปีนี้จะอยู่ในกรอบ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจนถึงสิ้นปี เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

“ค่าการตลาดตอนนี้ต้องยอมรับว่าน้อยมาก และแค่เก็บเพื่อบริหารจัดการให้บริษัทอยู่รอดเท่านั้น แม้ภาพรวมการใช้น้ำมันของไทยจะมีสัดส่วนแค่ 1% ของทั้งโลก แต่อาจต้องรับผลกระทบของความผันผวนไปอีกสักพัก ซึ่งต้องรอว่าจะมีการผลิตจากส่วนไหนเข้ามาช่วยลดแรงกดดันหรือไม่ เช่น การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (เชลออยล์) ในสหรัฐ ที่อาจเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงที่ความต้องการมากแบบนี้ จะสามารถช่วยผ่อนคลายให้ราคาน้ำมันในโลกไม่ตึงตัวเกินไป แต่การผลิตของเชลออยล์ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น การเก็บภาษีด้านการปล่อยคาร์บอนในสหรัฐ ที่ผู้ผลิตก็อาจมองว่าไม่คุ้มทุน และไม่จูงใจที่จะผลิตในช่วงนี้”นายกฤษณ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นน้ำมันของกลุ่ม ปตท. มีความพร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและคุณภาพน้ำมันดีเซลในประเทศตามมาตรฐาน Euro 5 หรือยูโร 5 ให้เริ่มใช้ได้ภายในวันที่ 1 ม.ค. 2567 ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันค่าการตลาดที่เรียกเก็บ ณ วันที่ 11 ต.ค. 2564 ดีเซลอยู่ที่ 0.3926 บาทต่อลิตร จากก่อนหน้าวันที่ 5 ต.ค. 2564 ที่ กบง. จะมีมติออกมาเรียกเก็บค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1 บาทกว่าต่อลิตร สะท้อนว่าปตท. ต้องแบกรับค่าตลาดที่ลดลงเกือบ 1 บาทต่อลิตร ขณะที่ภาพรวมการขายน้ำมันของ ปตท. ดีเซลอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านลิตรต่อวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน