คมนาคม สั่ง กรมขนส่งทางบก ถกรถบรรทุกอย่าหยุดวิ่ง เตรียมชง ครม. ปลดล็อก ให้ บขส. รับจ้างขนสินค้าได้ รองรับผลกระทบขนด้านการส่งสินค้าให้ประชาชนและภาคธุรกิจ

วันที่ 28 ต.ค.2564 นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกรณีสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เรียกร้องกรณีราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น พร้อมประกาศรวมตัวรถบรรทุก1,000 คัน บนเส้นทางต่างๆช่วงเดือนพ.ย. 2564 และงดให้บริการขนส่งสินค้าลง 20% ของจำนวนรถที่ให้บริการทั่วประเทศ

ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม แสดงความห่วงใย และมีความเข้าใจถึงผลกระทบของผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่สถานการณ์โควิดระบาด รวมถึงราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของผู้ประกอบการขนส่งสินค้า โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณามาตรการเพื่อลดผลกระทบแล้ว

คมนาคม

“เพื่อเป็นการเตรียมการลดผลกระทบหากมีการจัดกิจกรรมของสมาพันธ์ฯ จึงมอบหมายให้ กรมการขนส่งทางบก บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณาแนวทางในการลดผลกระทบ และเร่งสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่าจะคงได้รับการบริการขนส่งสินค้า และบริการ มิให้มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจการขนส่ง การส่งออกและการขนส่งสินค้าในประเทศ
ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีหน้าที่ในการกำกับดูแลผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ จะต้องเร่งทำความเข้าใจ และพิจารณาหาแนวทางในการลดผลกระทบและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการขนส่งทั้งที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฯ และมิได้เป็นสมาชิก ให้คงอัตราส่วนในการขนส่งสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการในการขนส่ง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับจำนวนผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางถนนในระบบโลจิสติกส์ของประเทศในปัจจุบัน มีจำนวนประมาณ 3.4 แสนราย ราย มีรถบรรทุกรวมทั้งสิ้นราว 1 ล้านคัน และกระทรวงคมนาคมยังได้มอบหมายให้กรมขนส่งทางบก ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการทั่วประเทศให้ยังคงให้บริการขนส่งสินค้าให้กับธุรกิจและประชาชนต่อไป นอกจากนี้ รมว.คมนาคม เตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2502 ที่กำหนดเพียงให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มีหน้าที่ในการขนส่งเฉพาะผู้โดยสาร และองค์การรับส่งพัสดุภัณฑ์ (รสพ.) ที่ได้มีการยุบเลิกไปแล้ว ทำหน้าที่ในการขนส่งสินค้า

ประท้วง

โดยจะเปลี่ยนแปลงให้ บขส. สามารถดำเนินกิจการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ได้ทุกรูปแบบอย่างเต็มที่ จากที่ให้บริการเพียงการรับขนส่งสินค้าใต้ท้องรถโดยสารประจำทางเท่านั้น และในขณะนี้จะมอบหมายให้ บขส, ให้การดูแลประชาชนเพื่อรับบริการขนส่งสินค้าในสภาวการณ์ภายใต้ข้อเรียกร้องของสมาพันธ์ฯ ดังกล่าว เพื่อมิให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อไป สำหรับในส่วนของรฟท. จะได้มอบหมายให้เร่งทำการขยายขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าในระบบราง เพื่อช่วยต่อการสนองตอบความต้องการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ของประชาชนในระยะเวลาที่สมาพันธ์ฯ มีข้อเรียกร้องเช่นเดียวกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน