นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบางจากงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 5,868 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 181% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 4.05 บาท มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อม 16,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,121% และมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 132,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%

ทั้งนี้ เนื่องจากการเปลี่ยนวิธีการบันทึกเงินลงทุนใน OKEA จากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย ประกอบกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมัน หลังจากมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 66.36 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันของปีก่อน 60% คิดเป็น 24.91 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้กลุ่มบางจากได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน 5,159 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่นพื้นฐานทรงตัวในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น และได้ปรับเพิ่มกำลังการกลั่นและเพิ่มสัดส่วนการผลิตน้ำมันที่มีคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง ช่วยหนุนค่าการกลั่นกลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้ามีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซีย และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศไทย

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 1,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.25 บาท มีกำไรก่อนหักภาษีดอกเบี้ย ค่าเสื่อม 7,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 47,649 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนวิธีการบันทึกเงินลงทุนใน OKEA และจากสัดส่วนการผลิตน้ำมันที่มีคุณภาพสูง 1,386 ล้านบาท

ขณะที่ ผลการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันที่มีค่าการกลั่นพื้นฐานปรับลดลง จากส่วนเพิ่มราคาของน้ำมันดิบอ้างอิงกับน้ำมันดิบเดทเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มธุรกิจการตลาดมีค่าการตลาดรวมสุทธิและปริมาณการจำหน่ายที่ปรับลดลง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนเร่งรัดการลงทุนที่เป็นมิตรกับโลก สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน จากการซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่าน Carbon Markets Club โดยตั้งเป้าเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (net zero GHG emissions) ในปี 2593 พร้อมพัฒนารูปแบบธุรกิจนอนออยล์ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตผู้บริโภค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน