รัฐบาลเร่งพิจารณา โครงการช็อปดีมีคืน หลังภาคเอกชนเรียกร้อง ชี้ต้องประเมินความเป็นได้ เหตุยิ่งใช้ยิ่งได้ ไม่เห็นผลตามที่คาดหวัง เผยคุมโควิดได้ ฟื้นเศรษฐกิจได้

นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมาตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า โครงการช็อปดีมีคืน ที่ภาคเอกชนเรียกร้องให้กลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้นั้น เรื่องนี้อยู่ในแผนที่รัฐบาลกำลังพิจารณา โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังเร่งศึกษาความเป็นไปได้ และความเหมาะสมของมาตรการต่อไป หลังผลของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ยังไม่เห็นผลมากตามที่คาดหวัง เนื่องจากผู้มีรายได้สูงมองว่าไม่สะดวกในการใช้มาตรการ โดยอาจจะนำโครงการช็อปดีมีคืนมาใช้ในปี 2565 เพื่อให้เกิดการกระตุ้นต่อเนื่องกับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่จะสิ้นสุดลงภายในสิ้นปี 2564

สำหรับของขวัญปีใหม่ที่มอบให้ประชาชนนั้น ขณะนี้ไทยได้เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวจาก 63 ประเทศแบบไม่ต้องกักตัว และเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร เพื่อให้สามารถเปิดประเทศได้ตามแผน ซึ่งหากดูจากข้อมูลทางเศรษฐกิจจะพบว่ามีการอุปโภคบริโภคในประเทศ รวมถึงการเคลื่อนไหว และการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ประเด็นที่สำคัญคือทุกคนในประเทศจะต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

“การเปิดประเทศได้รับการสนับสนุนจากทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ผ่านมา แต่ก็ต้องจับตาเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 19 พ.ย.ที่จะถึงนี้ว่ามาตรการของรัฐ รวมถึงเอกชน และประชาชนที่จะต้องช่วยกันนั้น จะสามารถควบคุมการแพร่ของโควิดได้ดีหรือไม่ เพื่อให้ต่อเนื่องไปยังเทศกาลปีใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีนักเท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวนมาก และมีการใช้จ่ายเงินตามมาในหลายภาคส่วนทั้งค่าที่พัก อาหาร ค่าเดินทาง เป็นต้น”นายสุพัฒนพงษ์ ​กล่าว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ได้ประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2564 ทั้งปีน่าจะขยายตัว 1.2% ตามกรอบบนที่คาดไว้เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ดีขึ้นจากปี 2563 ที่ลดลง 6.1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อปีนี้คาดอยู่ที่ 1.2% ส่วนปี 2565 คาดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจะเติบโต 4%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน