ส่งออกพุ่งกระฉูด! เดือนต.ค.บวก 17.4% โตต่อเนื่อง 8 เดือนติด พาณิชย์มั่นใจทั้งปีแตะ 16% ขยายตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ 4%

ส่งออกพุ่งกระฉูด – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการส่งออกไทยในเดือนต.ค. 2564 ว่า ขยายตัว 17.4% คิดเป็นมูลค่า 22,738.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 ส่วนตัวเลขรวม 10 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกเพิ่ม 15.7% คิดเป็นมูลค่า 222,736.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

สาเหตุที่ทำให้การส่งออกเป็นบวกมาจากสินค้าสำคัญที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้นคือ 1. กลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ลำไยสด เพิ่ม 97.7% ขยายตัว 5 เดือนต่อเนื่อง หลังจากเคยกังวลเมื่อช่วงต้นปี ที่มีปัญหาการส่งออก ยางพารา เพิ่ม 51.7% ขยายตัว 13 เดือนต่อเนื่อง ข้าว เพิ่ม 33.7% ขยายตัว 3 เดือนต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม 29.5% ขยายตัว 12 เดือน มะม่วงสด เพิ่ม 27% ขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่อง ถือเป็นรายการใหม่ที่อนาคตสดใส

2. กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้น 13.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน สินค้าสำคัญที่เพิ่ม เช่น น้ำตาลทราย เพิ่ม 111.6% ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง แห้ง กระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 28.7% และอาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่ม 14.4% ขยายตัวมา 25 เดือนต่อเนื่อง ถือเป็นสินค้าดาวรุ่งที่รุ่งมาต่อเนื่อง

3. กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 13.9% ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน สินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เพิ่ม 67.3% ขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่อง เหล็ก เพิ่ม 35.9% ขยายตัว 11 เดือนต่อเนื่อง อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 20.6% ขยายตัว 8 เดือนต่อเนื่อง แผงวงจรไฟฟ้า เพิ่ม 18.6% ขยายตัว 11 เดือน และรถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 10.3% ขยายตัว 12 เดือนต่อเนื่อง

รวมทั้งตลาดส่งออกที่มีตลาดขยายตัวสูง 10 ตลาด ได้แก่ รัสเซีย และ CIS ซึ่งเป็นตลาดใหม่ เพิ่ม 78.8% เอเชียใต้ เป็นตลาดใหม่ทั้ง อินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ เพิ่ม 50.4% อาเซียน 5 ประเทศ เพิ่ม 39.7% แอฟริกา เป็นตลาดใหม่เป้าหมายที่จะไปบุก เพิ่ม 38.8% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 33.2% เกาหลีใต้ เพิ่ม 30.6% CLMV เพิ่ม 19.8% สหรัฐ เพิ่ม 16.1% จีน เพิ่ม 14.1% และลาตินอเมริกา เพิ่ม 14.1%

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะยังเป็นบวกเฉลี่ยประมาณ และมูลค่า น่าจะอยู่ที่ 22,738 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะส่งผลให้การส่งออกทั้งปีของไทยขยายตัว 15-16% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 268,696-266,379 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขยายตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ 4%

โดยมีปัจจัยบวกจากการดำเนินตามแผนผลักดันการส่งออก ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย และมีจำนวนประชากรได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ การบริโภคและการส่งออกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องการจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านออนไลน์ (Online Business Matching: OBM) ในเดือนธ.ค. จะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าวสำหรับสินค้าผลไม้ก่อนที่จะออกฤดูกาลผลไม้นั้นๆ และมีกิจกรรมส่งเสริมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับซึ่งเป็นการทำงานของเซลล์แมนประเทศที่แจ้งความต้องการเข้ามายังส่วนกลางอยู่ตลอดเวลา โดยจะใช้เวลา 2 เดือนที่เหลือในการสร้างมูลค่าให้มากที่สุด

สำหรับเป้าส่งออกปี 2565 นั้น จะประชุม กรอ. พาณิชย์ ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกปี 2565 และวางแผนการดำเนินการสำหรับปี 2565

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน