นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มติเห็นชอบ ผลการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟสแรก จำนวน 5 เส้นทาง คือ 1. ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 2. ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 3. ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 4. ช่วงนครปฐม-หัวหิน และ 5. ช่วงหัวหิน-ประจวบฯ รวมระยะทาง 668 กิโลเมตร โดยให้ปรับจำนวนสัญญาจาก เดิม 5 สัญญาเป็น 13 สัญญา เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมประมูลได้มากขึ้นตามมติของ คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ด) เดิม

ทั้งนี้ ครม. ยังเห็นชอบให้มีการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางลงจากเดิม 101,748 ล้านบาท เป็น 98,984 ล้านบาท หรือปรับลดลง 2,764 ล้านบาท เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีการปรับลดราคากลางโครงการลง, ตัดค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ส่วนที่ไม่จำเป็นออก รวมทั้งมีการแบ่งสัญญาใหม่ให้เล็กลง

“ขณะนี้ รฟท. กำลังจะลงนามเอ็มโอยูกับกระทรวงการคลัง ในฐานะเจ้าของเงินก่อน จากนั้นในวันที่ 28 ธ.ค. นี้ จะเชิญเอกชน ที่ชนะการประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นมาลงนามสัญญา คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 จากนั้น จะเดินหน้าประมูลรถไฟทางคู่เฟส 2 ต่อเลย อีก 9 เส้นทาง ตั้งเป้าว่าในเดือนก.พ.-มี.ค. 2561 กระทรวงจะสามารถ ทยอยเสนอทางคู่เฟส 2 ให้ครม.พิจารณาได้”

นายอาคมกล่าวต่อว่า ครม. ยังมีมติเห็นชอบให้กรมทางหลวง เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 1 เส้นทางกทม.-โคราช ระยะทาง 252.5 กิโลเมตร วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท สำหรับตอนแรก ระยะทาง 3. 5 กม. กลางดง-ปางอโศก ในวงเงินก่อสร้าง 425 ล้านบาท โดยในวันที่ 20 ธ.ค. รฟท. จะลงนามในสัญญาร่วมกรมทางหลวง เพื่อให้กรมทางหลวงสามารถเริ่มงานก่อสร้าง ในวันที่ 21 ธ.ค. นี้

ทั้งนี้ กระทรวงจะเร่งศึกษาออกแบบก่อสร้าง เฟสที่ 2 เส้นทางจากนคราชสีมา-หนองคาย ต่อเนื่อง โดยไทยจะออกแบบเองโดยใช้ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากจีนในช่วงเฟส1 มาทำการออกแบบ ประกอบกับเฟส 2 ภูมิประเทศไม่ซับซ้อนมากนักส่วนใหญ่เป็นทางราบไทยสามารถออกแบบได้ โดยจะมีการนำผลการศึกษาเดิมของ รฟท. มาพิจารณาประกอบด้วย จากนั้นจะนำเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน