เริ่มแล้ว! กพช.ดึงเงิน Take or Pay 1.35 หมื่นล้าน หนุนลดค่าไฟให้ประชาชน – ตรึงดีเซล 30 บาทถึงสิ้นมี.ค. ส่วนแอลพีจีอุ้มแค่ม.ค.นี้
กพช.ลดค่าไฟ-ตรึงดีเซล – นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบการจัดสรรผลประโยชน์บัญชี Take or Pay แหล่งก๊าซธรรมชาติเมียนมา โดยให้นําเงินผลประโยชน์ของบัญชี Take or Pay ณ วันที่ 30 พ.ย. 2564 จํานวน 13,594 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการคืนภาครัฐทั้งหมด
เพื่อนําส่งเงินและลดราคาค่าก๊าซธรรมชาติให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สามารถนำไปลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) ขึ้นแบบขั้นบันได ทำให้ค่าเอฟทีปรับลดลง 22.50 สตางค์ จากค่าเอฟทีที่แท้จริงต้องสูงขึ้นอยู่ที่ 48.01 สตางค์
ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะกรรมการกิจการพลังงาน (กกพ.) ก่อนหน้านี้ที่เห็นชอบให้เรียกเก็บค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (ค่าเอฟที) งวดเดือนม.ค.-เม.ย. 2565 ในอัตรา 1.39 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 16.71 สตางค์ต่อหน่วย จาก -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้อัตราค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บกับประชาชนงวดเดือนม.ค.-มี.ค. อยู่ที่ 3.78 บาทต่อหน่วย จากงวดเดือนก.ย.-ธ.ค. 2564 อยู่ที่ 3.61 บาทต่อหน่วย
“นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมันในปี 2565 เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพประชาชน พร้อมทั้งให้เกิดความมั่นคงและไม่ขาดแคลน เบื้องต้น กพช. จึงเห็นชอบนำเงินจัดสรรบัญชีผลประโยชน์ Take or Pay แหล่งก๊าซจากเมียนมา 13,594 ล้านบาท ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ หากลดทันทีจะคิดเป็น 22 สตางค์ต่อหน่วย”
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังคงตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ถึงสิ้นเดือนมี.ค. 2565 ภายใต้เงินอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เตรียมกู้มาเสริมสภาพคล่อง 20,000 ล้านบาท
ส่วนกรณีราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี หรือก๊าซหุงต้ม) ที่ตรึงราคา 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (ก.ก.) จนถึงสิ้นสุดแค่เดือนม.ค.นี้ หลังจากนั้นจะพิจารณาปรับโครงสร้างราคาโดยทยอยปรับขึ้นเป็นขั้นบันไดเพื่อลดภาระเงินอุดหนุนต่อไป
นายกุลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่าที่ประชุม กพช. ยังมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ราคานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) สำหรับกลุ่มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สำหรับสัญญาระยะยาวและ/หรือสัญญาระยะกลาง ได้เป็น 3 รูปแบบ ดังนี้ 1. สมการในรูปแบบเส้นตรงที่อ้างอิงราคาน้ำมัน 2. สมการในรูปแบบเส้นตรงที่อ้างอิงราคาก๊าซธรรมชาติ และ 3. สมการในรูปแบบไฮบริด ซึ่งอ้างอิงทั้งราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และมีจุดหักมุม โดยจะนำเสนอ กพช. เพื่อพิจารณาต่อไป