BEM ฝ่าด่านโควิด-19 โกยกำไรปี’64 พันล้านบาท เดินหน้าจ่ายปันผลหุ้นละ 0.08 บาท
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า ในปี 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 ยังคงต่อเนื่องจากปี 2563 และกลับมารุนแรงเป็นระลอก ส่งผลกระทบเชิงลบต่อกิจกรรมการเดินทาง เป็นผลให้ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าลดลง อย่างไรก็ตามปริมาณการเดินทางฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมของภาครัฐ อัตราการฟื้นตัวของผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้า ณ สิ้นปี 2564 เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.2564 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปี อยู่ที่ 77% และ 226% ตามลำดับ
ถึงแม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 จะส่งผลกระทบทำให้รายได้จากการดำเนินงานลดลงจากปีก่อน จำนวน 2,764 ล้านบาท หรือ 20.5% แต่จากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทำให้ต้นทุนการให้บริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงจากปีก่อน จำนวน 1,624 ล้านบาท หรือ 16.6% ทำให้ในปี 2564 ยังคงมีกำไรสุทธิ จำนวน 1,010 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน จำนวน 1,041 ล้านบาท หรือ 50.8% อย่างไรก็ตาม พร้อมดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ถือหุ้น โดยจะมีการเสนอเพื่อขออนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท ทั้งนี้กำหนดจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันจันทร์ที่ 4 เม.ย. 2565 ในรูปแบบ e-AGM
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 BEM ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการโดยการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ในการนำเทคโนโลยี EMV Contactless มาใช้ในการชำระค่าผ่านทางพิเศษ ในโครงการทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ และทางพิเศษอุดรรัถยา และใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ไร้สัมผัส ใช้ก่อนจ่ายทีหลัง นอกจากนี้ ในปี 2564 ยังได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” หรือ “Thailand Sustainability Investment” (THSI) ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 รวมทั้งได้รับรางวัลสุดยอดองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดในประเทศ ในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ “ASEAN and Thailand’s Top Corporate Brands 2021” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
สำหรับการบริหารด้านการเงินในปี 2564 เป็นบริษัทเอกชนรายแรกในกลุ่มธุรกิจขนส่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Debentures) มูลค่า 6,000 ล้านบาท เงินที่ได้นำไปชำระคืนหนี้เดิมและ/หรือเงินลงทุน (Refinance) โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี มียอดจองซื้อมากกว่า 28,000 ล้านบาท หรือมากกว่า 4.7 เท่า และหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับรางวัล Best Sustainability Bond Award ประจำปี 2021 จาก The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำของเอเชีย ถือเป็นแรงสำคัญในการสนับสนุนให้ BEM เดินหน้าประกอบธุรกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในเมืองให้น่าอยู่มากขึ้นต่อไป