พาณิชย์ เผยส่งออก ม.ค. โต 8% น้ำมันตลาดโลกแพง ไทยขาดดุล 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หวั่นขัดแย้งรัสเซีย ทุบตลาดยางรถยนต์
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกเดือน ม.ค. 2565 ว่า มีมูลค่า 21,258.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 23,785 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 20.5 % ส่งผลให้ประเทศไทยขาดดุลการค้า 2,526.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 82,115.58 ล้านบาท)
“การส่งออกม.ค.ปีนี้เติบโต 8% ถือว่าดีขึ้น เมื่อเทียบกับกับเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ขยายตัวเพียง 0.1% เพราะกระทรวงพาณิชย์ และเอกชนทำงานร่วมกันใกล้ชิด ภาคการผลิตทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มและ สหรัฐอเมริกาขยายเวลาส่งออกนำเข้าได้มากขึ้น”
“สำหรับการส่งออกทั้งปีนี้ยังตั้งเป้าไว้ที่ 3-4% มูลค่า 279,308-282,020 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตลาดที่ขยายตัวสูงสุดได้แก่ อินเดีย 31.9% รัสเซีย 31.9% สหราชอาณาจักร 29.7% เกาหลีใต้ 26.8% สหรัฐฯ 24.1% แคนาดา 13.6% และอาเซียน 13.2% เป็นต้น”
นายจุรินทร์ กล่าวถึงผลกระทบการค้าจากปมขัดแย้งรัสเซียว่าจากการหารือร่วมกับภาคเอกชน สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ สมาคมธนาคารไทย สมาพันธ์ SMEs และสมาคมอื่นที่เกี่ยวข้อง สรุปร่วมกันว่า ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบทางตรงต่อการส่งออกและนำเข้าไทย เพราะรัสเซียมีส่วนแบ่งส่งออกเพียง 0.38% และยูเครน 0.04% โดยกระทบกับสินค้ายางรถยนตร์ อาหารแปรรูป อัญมณี และเครื่องสำอาง ในอนาคตอาจกระทบต้นทุนขนส่งสินค้าทางเรือ หากราคาน้ำมันยังสูง
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนผลกระทบทางอ้อม อาจทำให้ราคาพลังงาน และเหล็กนำเข้า ที่นำมาผลิตกระป๋องหรือก่อสร้างมีราคาเพิ่มขึ้น รวมไปถึงราคาธัญพืชที่นำเข้า เพื่อทำอาหารสัตว์ เช่น ข้าวสาลีและ ข้าวโพด เป็นต้น
“ขณะนี้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว โดยจะหันไปบุกตลาดส่งออกตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาติน แทน รวมถึงตลาด ที่รัสเซียหรือยูเครนส่งออกไปไม่ได้ สำหรับสินค้ามันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์ยางและ อาหารสำเร็จรูปทดแทนตลาดรัสเซียยูเครน เป็นต้น” นายจุรินทร์ กล่าว
ด้านนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวว่า น้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่มีราคาแพงขึ้นเป็นสาเหตุสำคัญ ทำให้เดือน ม.ค. 2565 ไทยขาดดุลการค้าจากมูลค่านำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น