นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเจอปัญหาสำคัญ ทั้งการถดถอย และผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งภาคอุตสาหกรรมของไทยต้องปรับตัวด้วยความรวดเร็ว เพราะสภาพแวดล้อมเปลี่ยนตลอดเวลา ขณะเดียวกันเห็นว่าประเทศไทยยังมี 2-3 เรื่องที่ต้องเร่งแก้ปัญหา เรื่องแรกคือ ภาระหนี้สิน และปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่อย่างมาก

ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกับ รมว.คลัง และได้มีการสอบถามถึงสถานการณ์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ผมได้ชี้แจงไปว่าดีมานด์อยู่ในเกณฑ์ดี แต่เหนื่อย เพราะความสามารถในการจ่ายหนี้ของคนไม่มี คนไปกู้ธนาคารแล้วถูกปฏิเสธเยอะ เพราะสภาพหนี้สูง ตรงนี้ทำให้จำกัดกำลังซื้อ และเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องเร่งแก้ไข

“การที่รัฐบาลทำนโยบายแบบประชานิยม เอาเงินใส่กระเป๋าประชาชนเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การใช้จ่ายส่วนตัวของประชาชนก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เงินในกระเป๋าลดลง มีรายจ่ายด้านการศึกษา ดอกเบี้ยนอนแบงก์ซึ่งสูงมากกว่า 20% ผมอยากถามว่าต้องทำธุรกิจอะไรถึงจะจ่ายดอกเบี้ยได้มากกว่า 20% ตรงนี้ถือเป็นวงเงินที่สูงมาก ผมเสนอไป เป็นข้อเสนอที่ตรงไปตรงมา แต่ต้องการการตัดสินใจที่เฉียบพลัน ให้ลดเพดานดอกเบี้ยนอนแบงก์จากที่มากกว่า 20% เหลือ 10% และหากไปดูจะพบว่านอนแบงก์ที่ทำธุรกิจแบบนี้กำไรสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ในช่วงปีที่ผ่านมาประชาชนเดือดร้อนจากโควิด-19 มาก แต่บริษัทเหล่านี้กลับกำไรสูงมาก ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ และอาจต้องมีการเสียสละกันหน่อย”นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่เป็นปัญหาสำคัญของเศรษฐกิจไทย คือ ความเหลื่อมล้ำ ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนรุ่นใหม่หมดกำลังใจ รู้สึกอยากย้ายถิ่นฐาน ย้ายประเทศ ตรงนี้ไม่ใช่การพูดเพื่อด้อยค่ารัฐบาล แต่เป็นเรื่องจริงของความรู้สึก และคนรุ่นผมคงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปพูดว่าใครไม่รักชาติออกไป แต่ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่ต้องพยายามทำให้ประเทศไทยน่าอยู่ ไม่ว่าจะในมิติของความเท่าเทียม ความเสมอภาค หรือนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวก็ตาม

“ไม่ใช่ว่าจะต้องไปขึ้นเวทีแล้วพูดว่า 40 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แต่กลับต้องมีแผนที่ชัดเจนว่าประเทศไทยในอีก 2 ปี หรือ 4 ปี จะเป็นอย่างไร คนในวัยเจริญพันธุ์ไม่อยากมีลูก สะท้อนจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่ประชากรไทยลดลง ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เราต้องดูว่าจะทำไงให้คนมั่นใจว่ายังอยู่ในประเทศนี้ต่อไปแล้วอนาคตเขาจะเป็นอย่างไร มีความเท่าเทียมอย่างไร ขณะเดียวกันหากถามว่าผมไม่สบาย และรักษากับหมอคนหนึ่งมาเป็นเวลา 8 ปีแล้วไม่หาย ผมจะทำอย่างไร ผมตอบได้เลยว่า ผมจะเปลี่ยนหมอรักษา แต่ยืนยันว่าผมจะไม่เป็นหมอเอง”นายเศรษฐา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน