นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหารกว่า 8 แบรนด์ อาทิ เดอะพิซซ่า คอมปะนี, ซิซซ์เล่อร์, แดรี่ควีน, เบอร์เกอร์คิง, สเวนเซ่นส์, บอนชอน, เดอะ คอฟฟี่ คลับ และคอฟฟี่ เจอร์นี่ รวมร้านอาหารในเครือมากกว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายไตรมาส 1 ปี 2565 เติบโตได้เล็กน้อย 5-6% แต่อย่างไรก็ดี ยอดขายทั้งปีบริษัทยังคงเป้าหมายไว้ที่ 7 พันล้านบาท ใกล้เคียงปี 2564

เนื่องจากแม้ว่าปีนี้รัฐบาลเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการยกเลิกระบบ Test & Go เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยที่บริษัทได้เปิดร้านในพื้นที่ท่องเที่ยว 100% เพื่อพร้อมรองรับแล้ว แต่ทั้งนี้ คาดว่าคงต้องใช้เวลา 6-8 เดือน กว่าจะเห็นยอดการจับจ่ายที่กลับมาชัดเจน

โดยเฉพาะยอดนั่งทานในร้านในส่วนของเดอะพิซซ่า คอมปะนี เมื่อช่วงไตรมาส 1 พบว่าลูกค้ายังกลับมาแค่เพียง 60% ส่วนซิซซ์เล่อร์ กลับมาแล้ว 80% ซึ่งในส่วนของเดอะพิซซ่า คอมปะนี พบว่ายอดขายในช่องทางเดลิเวอรี่เติบโตได้ค่อนข้างดี ทำให้ล่าสุดมีสัดส่วนยอดขายกว่า 50% ส่วนยอดลูกซื้อกลับไปทานที่บ้านยังคงมีสัดส่วนใกล้เคียงเดิมที่ 30%

ขณะเดียวกันจากกระแสแบรนด์น้องใหม่ ชิค-อะ-บูม ไก่ทอดสไตล์อเมริกันคลุกซอสสูตรพิเศษ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับดีเกินคาดจากผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ทำให้ ปี 2565 นี้ ได้วางกลยุทธ์ขยายไลน์เมนูไก่ทอดให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบความจำเจ กับเมนูล่าสุด ‘ชิค-อะ-บูม บิ๊กชิค’ ไก่กรอบแป้งคราฟต์ ที่มาในรูปแบบไก่กรอบไซซ์ใหญ่หมักจนเข้าเนื้อด้วยเครื่องเทศ โดยมีความพิเศษตรงที่ความกรอบของหนังไก่กับแป้งคราฟต์สูตรเฉพาะของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี เลือกทานได้ทุกส่วน ตั้งแต่ส่วนน่อง สะโพก อก และ ปีก อิ่มจุใจในแบบเดี่ยว 1 ชิ้น ราคา 45 บาท 2 ชิ้น ราคา 89 บาท 5 ชิ้น ราคา 219 บาท และ 10 ชิ้น ราคา 419 บาท หรือสั่งเป็นเซ็ต ราคาเริ่มต้น 119 บาท

“จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคกับการเลือกสั่งเมนูอาหารของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี พบว่าส่วนใหญ่จะเลือกสั่งพิซซ่าทานคู่กับเมนูไก่ เช่น ปีกไก่บาร์บีคิว ปีกไก่ทอดสไตล์เกาหลี เป็นต้น ทำให้ทางแบรนด์จึงมองเห็นโอกาสการเติบโตของแบรนด์ ชิค-อะ-บูม เพื่อบุกตลาดไก่ทอดที่แตกต่างแบบเต็มตัว และเป็นการต่อยอดฐานกลุ่มผู้บริโภคที่มีอยู่เดิมให้เพิ่มมากขึ้น”

พร้อมกันนี้ ผู้บริโภคยังมีตัวเลือกเมนูอาหารที่หลากหลาย ครบทุกไลน์เมนู มากขึ้น ไม่ว่าจะสั่งผ่านแอพพลิเคชัน จะนั่งทานที่ร้าน หรือสั่งผ่านบริการเดลิเวอรีก็สามารถสั่งได้ โดยคาดว่าหลังจากเปิดตัว ชิค-อะ-บูม บิ๊กชิค จะได้รับการตอบรับที่ดีและช่วยกระตุ้นยอดขายไก่ปีนี้ให้เติบโต 60%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน