นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่ามากขึ้นในขณะนี้ เป็นต้นทุนหลักที่ทำให้การส่งออกข้าวในปีนี้อาจไม่ดีมากนัก และค่าเงินบาทยังมีความผันผวนและคาดคะเนไม่ได้ ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกขาดทุนแม้จะทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่บนแล้วก็ตาม แต่ค่าเงินยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ส่งออกมีต้นทุนในการทำประกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และขาดทุน โดยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุก 1 บาท จะส่งผลต่อราคาข้าวให้แพงขึ้นประมาณ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวหอมมะลิราคาจะแพงกว่าคู่แข่งประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

จึงอยากให้ภาครัฐดูแลค่าเงินบาทอย่าให้ผันผวน เพราะการส่งออกสินค้าเกษตรเกี่ยวข้องกับหลายอุตสาหกรรมและกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งหากไม่สามารถส่งออกได้ก็จะกระทบต่อเกษตรกรและทำให้การบริโภคภายในประเทศมีปัญหาได้ โดยอยากให้ภาครัฐดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นต้นทุนที่ผู้ส่งออกยังสามารถปรับได้และยังสามารถแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกข้าวอื่นๆ ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน