ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยไตรมาส 1/2565 บางจากและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 69,055 ล้านบาท ทะลุหมื่นล้านเป็นประวัติการณ์
วันที่ 11 พ.ค.2565 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 บางจากและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 69,055 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 67% คิดเป็นกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) 13,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189% โดยในส่วนของบริษัทแม่มีกำไรสุทธิ 4,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.12 บาท
“EBITDA ไตรมาส 1/2565 ที่ 13,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 48% นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจมาที่มี EBITDA รายไตรมาสกว่าหมื่นล้านบาท เนื่องจากกลุ่มบริษัทได้วางแผนทยอยเก็บสำรองน้ำมันล่วงหน้า ทำให้มี Net Inventory Gain กำไรจากสต็อกน้ำมันสุทธิ ปรับด้วยผลต่างจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้า ในไตรมาสนี้กว่า 2,900 ล้านบาท ทั้งยังส่งผลให้ค่าการกลั่นพื้นฐานปรับตัวสูงขึ้น ทำให้โรงกลั่นบางจากฯ มีการปรับเพิ่มอัตรากำลังการผลิตจนสูงสุดเป็นประวัติการณ์”
นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งยังมาจากการเปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุนใน OKEA เป็นบริษัทย่อยซึ่งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เป็นต้นมา และจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันที่ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก อุปทานพลังงานที่ตึงตัวหลังสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน และการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันหลังความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19
ขณะเดียวกัน การทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดกิจกรรมทางสังคมในหลายประเทศทั่วโลก เป็นผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยไตรมาสแรกปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 17.95 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 96.21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 36 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
Advertisement
