นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีหลายฝ่ายกังวลตัวเลขการลงทุนภาคเอกชน ยังไม่ขยายตัวในระดับที่รัฐบาลคาดไว้ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ว่าขณะนี้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รอภาวะเศรษฐกิจโลกค่อยๆ ฟื้นตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น ราคาสินค้าเกษตร ประกอบกับนโยบายรัฐบาลพยายามสร้างแรงจูงใจให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการดึงดูดการลงทุน ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวม ส่วนตัวจึงคาดจะเริ่มเห็นการลงทุนภาคเอกชนชัดเจนช่วงไตรมาสแรกปีหน้า

“ตอนนี้ภาคเอกชนยังชะลอการลงทุนแต่ไม่ได้หยุดเลย เพราะรอดูภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐค่อนข้างมีผลต่อหลายประเทศในโลก รวมทั้งไทย หากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายรอบการประชุมกลางเดือนธ.ค.นี้ ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ทั้งยังต้องติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่เพราะนโยบายทั้ง 2 พรรคค่อนข้างแตกต่างกันชัดเจน ขณะที่ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากรัฐบาลพยายามออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ถึงฐานรากต่อเนื่อง ดังนั้นหากเศรษฐกิจโลกดีขึ้น ทุกอย่างน่าจะขับเคลื่อนได้เร็ว”นายวัลลภ กล่าว

ด้านนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ เอสซีจี มองว่าโดยปกติภาคเอกชนจะเริ่มมีการลงทุนหลังจากภาครัฐลงทุนไปแล้วสักระยะหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ภาครัฐเริ่มทยอยการลงทุนแล้ว จึงเชื่อว่าภาคเอกชนจะเริ่มทยอยลงทุนตามมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน