พาณิชย์เผยผลสำรวจคนไทยดิ้นหารายได้เสริม ลดผลกระทบน้ำมันแพง แนะรัฐออกมาตรการช่วยค่าขนส่ง กลุ่มเปราะบาง-นักศึกษา

พิษน้ำมันแพง – นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเดือนมิ.ย. 2565 จำนวน 8,363 คน ทุกอำเภอทั่วประเทศ เกี่ยวกับการปรับตัวในภาวะน้ำมันแพง พบว่า ส่วนใหญ่ 29.23% ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้รถยนต์ส่วนตัวน้อยลง รองลงมา 17.15% เปลี่ยนชนิดพาหนะหรือเปลี่ยนวิธีการเดินทาง และ 10.82% เปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ราคาถูกกว่า

สำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดค่าใช้จ่ายพบว่า ส่วนใหญ่ 29.87% ลดการใช้สินค้าฟุ่มเฟือยลง อาทิ กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า รองลงมา 16.92% คือ ลดการท่องเที่ยว และ 16.25% ลดการบริโภคอาหารนอกบ้าน โดยกลุ่มผู้ที่มีรายได้มากกว่า 100,000 บาท/เดือน มีสัดส่วนการลดการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด อาจกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ภาครัฐควรกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้มีรายได้สูงอย่างต่อเนื่อง

นายณรงค์ กล่าวว่า หากสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงยืดเยื้อ พบว่าผู้บริโภคจะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในระยะยาว โดยคนส่วนใหญ่ 54.10% จะหาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ หาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้, 15.86% เปลี่ยนไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และ 11.76% จะเปลี่ยนที่อยู่อาศัยให้ใกล้ที่ทำงาน โดยพบว่าเกษตรกร พนักงานของรัฐ นักศึกษา และอาชีพอิสระ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้มากที่สุด

“ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและดูแลค่าบริการขนส่งสาธารณะให้เหมาะสม ตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท/เดือน กลุ่มนักศึกษา และกลุ่มที่ไม่ได้ทำงาน รวมทั้งกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้มีรายได้สูง ที่มีรายได้มากกว่า 100,000 บาท/เดือน ซึ่งพบว่ามีสัดส่วนการลดการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด และในระยะยาวควรมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เพื่อการอำนวยความสะดวก และจูงใจให้คนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน