หอการค้าไทย ยอมรับไทยยังมี 5 ปัจจัยเสี่ยง หวั่นเศรษฐกิจสูญ 1.4 แสนล้าน แต่ยังคงเป้าจีดีพีปีนี้ที่ 3.1% ฟันธง เศรษฐกิจโลกยังไม่ถดถอย

วันที่ 15 ก.ย.2565 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการประเมินผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) คือ ภาวะที่จีดีพีจะต้องติดลบต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 ไตรมาส และมีปัญหาการว่างงาน นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาเศรษฐกิจโลกขณะนี้พบว่ายังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย เป็นเพียงเศรษฐกิจชะลอตัวเท่านั้น เนื่องจากมีเพียงสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวที่จีดีพีเติบโตติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน ส่วนจีนติดลบเพียงไตรมาสเดียว ขณะนี้ยุโรปและอินเดียยังขยายตัวเป็นบวก แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต้องจับตาดู นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยยังไม่ได้ส่งผลกระทบมายังเศรษฐกิจ เพราะจากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบการ ไทยส่วนใหญ่ 48.8% ตอบว่ามีผลกระทบน้อย 31.7% ปานกลาง 10.2% ไม่ได้รับผลกระทบ และ 9.3% กระทบมาก โดยสาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจไทยคือ ต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยส่วนใหญ่ 45.8% ตอบว่าค่าครองชีพส่งกระทบต่อธุรกิจปานกลาง 38.9% 15.4% น้อย ดังนั้นรัฐบาลควรจะต้องตรึงราคาดีเซลออกไปเพื่อหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

หอการค้าไทย ยอมรับไทยยังมี 5 ปัจจัยเสี่ยง หวั่นเศรษฐกิจสูญ 6.3 หมื่นล้าน แต่ยังคงเป้าจีดีพีปีนี้ที่ 3.1%

หอการค้าไทย ยอมรับไทยยังมี 5 ปัจจัยเสี่ยง หวั่นเศรษฐกิจสูญ1.4แสนล้าน แต่ยังคงเป้าจีดีพีปีนี้ที่ 3.1%

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ยอมรับว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 5 ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปีนี้คือ 1.อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น 2.การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 3.ค่าเงินบาทอ่อนค่าที่เป็นภาระต่อต้นทุนนำเข้า 4.การปรับเพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำ และ 5.ความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งทั้ง 5 ปัจจัยเสี่ยงอาจจะส่งผลกระทบทำให้จีดีพีปรับลดลง 0.88% หรือลดลง 145,382 ล้านบาท นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อาจทำให้ไทยขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น มูลค่าทางเศรษฐกิจหายไป 2 แสนล้านบาท แต่จะถูกชดเชยด้วยรายได้จากการท่องเที่ยว 2.4 แสนล้านบาท จากนักท่องเที่ยวราว 10 ล้านคนในปีนี้ จะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยได้ ขณะที่การขึ้นค่าแรงก็มีผลบวกต่อเศรษฐกิจไทย ดังนั้น ม.หอการค้ายังคงเป้าจีดีพีทั้งปีที่ 3.1% การส่งออกโตที่ 5-6% เพราะยังไม่มีปัจจัยลบรุนแรง ส่วนปีนี้เศรษฐกิจไทยยังโตไม่โดดเด่นเพราะเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยง คาดว่าจีดีพีจะโต 3-3.5% นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ม.หอการค้าได้มีการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย หากเกิดกรณีภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยคาดว่าปริมาณการค้าโลกจะลดลง 1.0-2.0% ฉุดส่งออกไทยลดลง 185,596 ล้านบาท ส่งผลให้การบริโภคเอกชน การลงทุนเอกชนการนำเข้าสินค้า ลดลง 200,282 ล้านบาท ฉุดจีดีพีลดลง 1.22% นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ความมั่งคั่ง (Wealth) ในสินทรัพย์จะลดลง 6% กระทบให้การบริโภคและลงทุนเอกชน ลดลง 35,157 ล้านบาท ฉุดให้จีดีพีลดลง 0.21% โดยจะส่งผลกระทบภาพรวมทำให้จีดีพีไทยโตลดลง 1.43%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน