ผู้ค้าสลาก หนุนออกหวยแบบใหม่ ซื้อ 3 ตัวตรง ใบละ 50 บาท ลูกค้าจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดแอพเป๋าตัง ลุ้นรางวัลมากขึ้น คาดจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีนี้

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.66 นายประสาน น้อมจันทึก ตัวแทนกลุ่มสลาก 5 ภาค กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดกองสลาก) ว่า พิจารณาแนวทางการจัดทำผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบใหม่ ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก (Number 3 : N3) และสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (Lottery 6 : L6) ซึ่งข้อสรุปจะนำเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีนี้นั้น

นายประสาน กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ขายสลากเห็นด้วยกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง 2 รูปแบบ เนื่องจากผู้ขายมีการขายสลากหลากหลายส่งผลให้มีรายได้มากขึ้น แต่เรื่องที่เป็นประเด็นปัญหาเรื่องรูปแบบการขายที่ยังไม่ชัดเจน เพราะกลุ่มผู้ขายสลากกังวลว่าจะเข้าไม่ถึงการขาย

หากเกิดกรณีที่กองสลากเปิดขายเอง และอนุญาตให้มีกลุมผู้ค้ารายใหญ่ เช่น ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น หรือมีขายจากนายทุนใหญ่เปิดขาย เป็นต้น หากการเปิดขายสลากรูปแบบใหม่แล้วรายได้ถึงผู้ประกอบการรายย่อยจริงๆ กลุ่มผู้ขายสลากไม่มีปัญหา และพร้อมที่จะเข้าสู่ระบบการขายใหม่ๆ ด้วย

โดยสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก มีลักษณะคล้ายกับหวยใต้ดินที่กองสลากเพิ่มการลุ้นรางวัลมากขึ้น หลังจากกองสลากเปิดให้แสดงความคิดเห็นสาธารณะ โดยเบื้องต้นรายละเอียดการขายของสลาก 3 หลัก คาดว่าจะขายที่ใบละ 50 บาท โดยมีผู้ค้าสลากเป็นผู้รับซื้อ และให้ลูกค้าจ่ายผ่านระบบสแกนคิวอาร์โค้ดที่บัญชีผู้ขายสลากผ่านแอพเป๋าตัง ซึ่งเงินจะไม่เข้าที่ผู้ค้าสลากโดยตรง แต่เงินจะเข้ากองสลาก ที่ได้บันทึกข้อมูลการซื้อผ่านผู้ขายที่มีชื่ออยู่ในระบบแอพเป๋าตัง

“เงินที่ผู้ขายสลากจะได้คือสัดส่วนของจำนวนสลากที่ขายได้ในแต่ละงวด เช่น ขายใบละ 50 บาท โดยกำหนดให้ขายสลากขั้นต่ำที่ 1,000 ใบ โดยเฉลี่ยผู้ขายจะได้กำไร 6 บาทต่อใบ หากขายได้ 1,000 ใบ จะได้ส่วนแบ่งที่ 6,000 บาทต่องวด ซึ่งเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากที่กองสลากกำหนดให้ผู้ขายรับสลากแบบใบมาขายที่ 500 ใบต่อคน ขายใบละ 80 บาท ซึ่งงวดหนึ่งจะได้ 40,000 บาท แต่หักต้นทุนอีก 35,000 บาท เหลือกำไรรับต่องวดที่ 4,800 บาท หากเพิ่มสลากใหม่จะทำให้ผู้ขายมีรายได้อยู่ที่ 10,800 บาทต่องวด” นายประสาน กล่าว

ตัวแทนกลุ่มสลาก 5 ภาค กล่าวต่อว่า แต่การรับรางวัลจะแตกต่างกัน คือมูลค่ารางวัลจะไม่เหมือนกันในแต่ละงวด โดย 60% ของยอดขายจะนำมาเงินส่วนนั้นมาเป็นเงินรางวัล ซึ่งแต่ละงวดผู้ถูกสลากรางวัลจะไม่ได้เงินตายตัว เพราะเมื่อผู้ซื้อเลือกเลขได้เอง และซื้อตัวเลขที่ถูกพร้อมกันหลายคน การเฉลี่ยสัดส่วนเงินรางวัลจะมีจำนวนแตกต่างกันออกไป

เช่น งวดหนึ่งมีผู้ซื้อสลาก 3 ตัวทั้งหมด 1 ล้านใบ ราคา 50 บาทต่อใบ คิดเป็นเงิน 50 ล้านบาท ซึ่ง 60% ของจำนวนเงินดังกล่าวอยู่ที่ 30 ล้านบาท ซึ่งจะนำเงินมาแบ่งจ่ายรางวัล อาทิ 1.รางวัล 3 ตัวตรง จะได้ 30% ของเงินรางวัลทั้งหมด 2.รางวัล 3 ตัวสลับหลัก (โต๊ด) จะได้ 30% ของเงินรางวัลทั้งหมด 3.รางวัล 2 ตัว จะได้ 39% ของเงินรางวัลทั้งหมด

รวมถึงรางวัลพิเศษจะได้ 1% ของเงินรางวัลทั้งหมด ดังนั้น หากงวดนี้มีเงินรางวัลที่ 30 ล้านบาท เฉลี่ยสัดส่วน 30% ของรางวัล 3 ตัวตรงจะได้เงินรางวัลที่ 9 ล้านบาท เมื่อมีผู้ถูกรางวัล 100 คน จะได้ 90,000 บาทต่อคน

“อย่างไรก็ตาม มองว่ารางวัลอาจจะไม่จูงใจผู้ซื้อมากกว่าการซื้อหวยใต้ดินที่เจ้ามือ หรือผู้รับซื้อหวยใต้ดินจะจ่ายเงินรางวัลตามราคาที่กำหนดต่อการซื้อ เช่น ขาย 3 ตัว ที่ราคาบาทละ 450 บาท และไม่มีการกำหนดขั้นต่ำ หากซื้อที่ 20 บาท เมื่อถูกรางวัลจะได้เงินที่ 9,000 บาท ซึ่งเป็นราคาจ่ายที่แน่นอนกว่า” นายประสาน กล่าว

ทั้งนี้ สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (Lottery 6 : L6) เป็นการออกสลากตามรูปแบบเดิม แต่เพิ่มวิธีการซื้อขาย ปัจจุบันที่ขายผ่านระบบดิจิทัลสามารถซื้อขายที่แอพเป๋าตัง โดยที่กองสลากจะเป็นผู้พิมพ์สลากในจำนวนหนึ่งแล้วนำมาขายในระบบ แต่ผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่นำสลากที่พิมพ์ไว้แล้วมาใส่ในระบบ แต่จะให้ผู้ซื้อกดตัวเลขได้ 6 ตัว และพิมพ์ออกมาเป็นสลากแบบดิจิทัล ได้เหมือนกับพิมพ์สลากทั่วไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน