เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมชมการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ที่วัดบำเพ็ญเหนือ/วัดบางเพ็งใต้ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังติดตามการลดราคาสินค้า หลังจากที่ต้นทุนการขนส่งได้ปรับลดลง จากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล โดยได้ทำการคำนวณต้นทุนสินค้าแต่ละรายการแล้ว แม้จะลดไม่ได้หมด แต่จะพยายามเอาส่วนต่างๆ มาลดให้ได้ โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในชีวิตประจำวันของประชาชน ตัวไหนลดได้ จะลดทันที ตัวไหนที่ลดไม่ได้ จะพยายามตรึงราคาไว้ และมีการติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน และถ้าหากมีปัจจัยเงื่อนไขอื่นที่สามารถลดราคาได้อีก ก็จะพยายามให้ปรับลดลง โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นเดือนต.ค. 2566 นี้

ส่วนการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดนี้ เป็นโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ทำคู่ขนานไป จากที่จะดูแลประชาชนในวงกว้าง ก็ทำการเปิดจุดจำหน่ายเจาะลึกไปยังแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจำนวน 100 จุด โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ นำสินค้าราคาประหยุดถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 50-60% มาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก โดยสินค้าที่นำมาลดราคา เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช หมูเนื้อแงด ไก่ นม อาหารต่างๆ ซองปรุงรส อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องอุปโภคบริโภค เป็นต้น และยังมีผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งตอนนี้เป็นมังคุด และลองกอง

สำหรับนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปดูแล เพื่อให้มีจุดจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ได้ โดยร้านธงฟ้า จะผลักดันให้เข้าในโครงการ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน

ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยที่กังวงเรื่องการเก็บภาษี มองว่าอย่าไปกังวล เพราะไม่ใช่เป้าหมายของรัฐบาล เป้าหมายของรัฐบาล คือ จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ได้ประโยชน์ คือ ทุกคนทั่วหน้าทุกฝ่าย ทั้งพี่น้องประชาชน ซึ่งถ้าเศรษฐกิจดี ก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น การจับจ่ายใช้สอยก็จะดีขึ้น การจ้างงานต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง ก็จะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจด้วย หวังว่า 6 เดือนที่ใช้เงินจำนวนนี้ จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้มันดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและการสร้างงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน