นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ (Saving Bond) ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ครั้งที่ 1 วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.การจำหน่ายให้กับประชาชน วงเงิน 35,000 ล้านบาท ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ วอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) บนแอพพลิเคชันเป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 6-19 มี.ค. 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30น. เป็นต้นไป

สำหรับบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป วงเงินขั้นต่ำ 100 บาท และสูงสุดที่ 50 ล้านบาท (หน่วยละ 100 บาท) โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อลงทะเบียน ยืนยันตัวตน และเติมเงินเข้าวอลเล็ต สบม. ผ่าน Mobile Banking หรือผูกบัญชีธนาคารกรุงไทย รวมถึงเติมเงินด้วย Wallet ID ที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

2. การจำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) วงเงิน 25,000 ล้านบาท ประกอบด้วยรุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยจะเปิดให้จองซื้อได้วันที่ 11-13 มี.ค. 2567 มีวงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินขั้นสูงสุด (หน่วยละ 1,000 บาท) ซึ่งจะจำหน่ายผ่าน Internet Banking Mobile Banking และเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง

“การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ให้กับประชาชนในช่วงที่ 1 (วันที่ 11-13 มี.ค. 2567) จะใช้วิธีการจัดสรรพันธบัตรแบบ Small Lot First (ทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบ ๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย) โดยทวีคูณรอบละ 1,000 บาท ซึ่งลำดับในการจองซื้อก่อน-หลัง ไม่มีผลต่อการจัดสรร และในกรณีที่วงเงินพันธบัตรที่จะจัดสรรในรอบสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ผู้ซื้อทุกราย ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดสรรพันธบัตรในรอบสุดท้ายด้วยวิธีการสุ่ม (Random) จนครบวงเงินจำหน่าย โดยผู้จองซื้อจะทราบผลการจัดสรรพันธบัตรและได้รับเงินคืน กรณีที่ไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตร หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินจองซื้อ ในวันที่ 14 มี.ค. 2567” นายพชร กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายให้กับนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร วงเงิน 5,000 ล้านบาท เฉพาะรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี (จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน) โดยจะเปิดจำหน่ายในวันที่ 18-19 มี.ค. 2567 มีวงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินขั้นสูงสุด (หน่วยละ 1,000 บาท) ซึ่งจะจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง

อย่างไรก็ดี สบน. ประเมินว่าการเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ ปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 1 วงเงิน 40,000 ล้านบาท จากแผนการออกในปีนี้ที่ 100,000 ล้านบาทนั้น จะได้รับความสนใจจากประชาชนและกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยตอบแทนของพันธบัตรดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก โดยถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา ซึ่งถือว่าเป็นแรงดึงดูดใจให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน