นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเปิดเผยถึงผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ว่า สงกรานต์ปีนี้มีความคึกคัก คาดว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ 21 วัน จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ 128,834.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งมีเงินสะพัดอยู่ที่ 125,203.29 ล้านบาท ถือเป็นการใช้จ่ายสูงสุดในรอบ 5 ปี นับจากปี 2563

และยังมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางมาช่วงสงกรานต์รวม 1,954,607 คน รวมเป็นรายได้ 69,397 ล้านบาท ทั้งนี้ หากรวมเงินสะพัดสงกรานต์ และรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทำให้มีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจรวมทั้งสิ้น 198,231 ล้านบาท ดันให้จีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.11%

นายธนวรรธน์ กล่าวถึงแผนการใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ว่า คนส่วนใหญ่จะเดินทางไปทำบุญ เฉลี่ย ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,130 บาท/คน รองลงมาคือ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ 2,422 บาท/คน เล่นน้ำสงกรานต์ 810 บาท/คน สังสรรค์ 3,542 บาท/คน ไหว้พระ ขอพร 780 บาท/คน สินค้าอุปโภคบริโภค 1,797 บาท/คน ไปทานข้าวนอกบ้าน 1,506 บาท/คน เป็นต้น ส่วนของฝากที่จะนำไปอวยพรผู้ใหญ่ เช่น เงินสด พวงมาลัย กระเช้า เสื้อผ้า เป็นต้น

สำหรับแผนการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นั้นคนส่วนใหญ่ 66.1% มีแผนทำกิจกรรม และท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ, 26% พักผ่อนอยู่บ้าน และ 7.9% กลับบ้านและยังไม่มีการวางแผนเที่ยว โดยคาดว่าจะมีการใช้จ่ายท่องเที่ยวในประเทศ เฉลี่ย 6,425 บาท/คน ส่วนท่องเที่ยวต่างประเทศเฉลี่ย 40,129 บาท/คน โดยจังหวัดที่ได้รับความนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุด เช่น ชลบุรี อยุธยา เชียงใหม่ นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร เป็นต้น ส่วนต่างประเทศที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวได้แก่ ญี่ปุ่น และจีน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน