นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังมาตรวจเยี่ยมและหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ว่า ได้ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งเตรียมข้อมูลและความพร้อม ไม่ว่าจะเป็น ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อความเป็นหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) ,การทบทวนข้อตกลงการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นหรือเจเทปปา (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement : JTEPA) และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยเฉพาะความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อความเป็นหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) หรือความตกลงหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก (ทีพีพี) เดิม ที่ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเตรียมข้อมูลมา ก่อนที่ตนจะเดินทางไป ที่ญี่ปุ่นเร็วๆนี้ โดยให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปศึกษาเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์กับไทย

“ถือว่าเป็นนโยบายหลักที่ไทยเตรียมเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อความเป็นหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี)ซึ่งไทยตั้งจะเข้าร่วมให้ทันภายในปีนี้ ซึ่งข้อแตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อให้สมาชิก6ประเทศลงสัตยาบัตร ทั้งนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาหัวข้ออ่อนไหวที่มีผลกระทบกับไทยว่าจะมีวิธีการเจรจาผลกระทบอย่างไร เพราะซีพีทีพีพี รอบนี้ค่อนข้างผ่อนปรนกว่าในอดีตและมีเงื่อนไขผ่อนคลายมากขึ้น”นายสมคิด กล่าว

สำหรับประเทศที่เข้าร่วมในความตกลงนี้ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, บรูไน, แคนาดา, ชิลี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เม็กซิโก, นิวซีแลนด์, เปรู, สิงคโปร์ และเวียดนาม ขนาดเศรษฐกิจของทั้งหมดรวมกันคิดเป็น 13.5% ของผลผลิตมวลรวมทั้งโลก และมีประชากรรวมกัน 500 ล้านคน ใหญ่กว่าสหภาพยุโรป ซึ่งเดิมคือความตกลงหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก (ทีพีพี) แต่ภายหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ นำสหรัฐฯ ถอนตัวจากความตกลงที่ริเริ่มโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ส่งผลให้มีการปรับปรุงความตกลงฉบับปรับปรุงใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็นความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อความเป็นหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) โดยที่ซีพีทีพีพี ยังคงเป็นความสำเร็จที่มีนัยสำคัญที่ส่งสารของความเปิดกว้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน