น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ประธานกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2567 ได้มอบนโยบายในการประชุมบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ปี 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตามที่รัฐบาลประกาศให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทยยิ่งใหญ่ที่สุด (Thailand Grand Tourism Year 2025) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ยกระดับภาคการท่องเที่ยวไปสู่บทใหม่
“ภาคการท่องเที่ยวที่ทำรายได้เข้าประเทศได้ทันที ซึ่งต้องขอให้ ททท. จัดทำแผนปฏิบัติการสอดรับกับพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยว หรือ Customer Journey รับฟังเสียงลูกค้า ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง จนถึงเดินทางกลับประเทศ นำมาเป็นสารตั้งต้นในการพิจารณาแผน เพื่อนำไปตกผลึกและยกระดับในด้านต่างๆ”
น.ส.นัทรียา กล่าวว่า แนวโน้มปี 2568 คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น คนออกมาเที่ยวมากขึ้น ส่วนปี 2567 มั่นใจว่ารายได้รวมการท่องเที่ยวจะไปถึง 3 ล้านล้านบาทตามเป้าหมายการทำงานของ ททท.แน่นอน ส่วนเป้าหมายที่นายกฯ ตั้งไว้ 3.5 ล้านล้านบาทในปีนี้ เท่ากับว่าต้องทำรายได้เพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท มองว่าไม่ยากเกินไป จะได้มาจากการจัดบิ๊กอีเวนต์ในช่วงไตรมาส 4
นอกจากนี้ มองด้วยว่าน่าจะได้นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 39 ล้านคนในปี 2567 เพราะขณะนี้ทาง ททท. ก็กำลังเจรจาเพิ่มเที่ยวบิน ส่วนตลาดไทยเที่ยวไทย มีความท้าทายจากการแข่งขันของประเทศต่างๆ ที่โปรโมตดึงนักท่องเที่ยวไทย เช่น แพ็กเกจท่องเที่ยวจีน ราคาไม่แพง ดึงดูดคนไทยไปจีนจำนวนมากในช่วงนี้
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยในปี 2568 ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้เพิ่มจากที่ทำได้ในปี 2567 ไปอีก 7.5-10% หรือประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท ภายใต้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน ตลาดไทยเที่ยวไทย เดินทางในประเทศไทย จำนวน 220 ล้านคน-ครั้ง โดยจะใช้เครื่องมือดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านการจัดบิ๊กอีเวนต์ โดยเฉพาะงานเฟสติวัลที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม และเพิ่มการร่วมมือระหว่างหลายหน่วยเข้ามามากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนเมืองน่าเที่ยวเพิ่มขึ้น
โดยปี 2568 ตั้งเป้าหมายรายได้ของเมืองน่าเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 25% โดยจะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงเข้ามามากขึ้น อาทิ กลุ่มไมซ์ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีจำนวนยอดจองล่วงหน้าเข้ามาเพิ่มขึ้นในส่วนการจองใช้รถเช่าและโรงแรม โดยเฉพาะตลาดไมซ์
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า สำหรับปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยได้ 200 ล้านคนครั้งแน่นอน แต่มีโอกาสเพิ่มได้อีก 30 ล้านคนครั้ง หากในช่วงครึ่งปีหลังรัฐบาลให้การสนับสนุนโครงการทัวร์ทั่วไทย ส่งเสริมให้หน่วนงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงานประชุมงานประชุมในจังหวัด 55 เมืองน่าเที่ยว และให้ ททท. 29 สำนักงานในประเทศทำงานร่วมกับเอเย่นใน 1 สำนักงานต่อ 10 เอเยนต์
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่รัฐบาลวางเป้าหมายไว้ 36.7 ล้านล้านบาท ตามที่รัฐบาลวางเป้าหมายไว้มั่นใจว่าทำได้แน่นอน และมีโอกาสเพิ่มได้อีก 4 ล้านคน โดยการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ เช่น ตลาดมาเลเซียดึงให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวถึงกรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มอาหรับเข้ามารักษาพยาบาลในไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ปี 2568 สทท. ประเมินไว้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ที่ 40-45 ล้านคน และนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยไว้ที่ 220 ล้านคนครั้ง