นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้เตรียมเรียกผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าหารือเพื่อปรับปรุงเป้าหมายการท่องเที่ยวปี 2568 ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล หลังจากททท. วางเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวไทยในปี 2568 เพิ่มจากที่ทำได้ในปี 2567 ไปอีก 7.5-10% หรือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท จากปี 2567 ที่ ททท.ตั้งเป้าการทำงานไว้ที่รายได้รวม 3 ล้านล้านบาท
“เป้ารายได้ปี 2567 รัฐบาลตั้งไว้ที่ 3.5 ล้านล้านบาท กระทรวงอยากให้ททท. ยึดเป้าหมายการทำงานเป็นเป้าหมายเดียวกับรัฐบาล ดังนั้นหากเป้าหมายของททท. เป็นเป้าหมายเดียวกับรัฐบาล ที่รายได้จากการท่องเที่ยวที่ 3.5 ล้านล้านบาท ปี 2568 เป้าหมายกระตุ้นการท่องเที่ยว ต้องมีรายได้รวมโตขึ้นประมาณ 7-10% จากเป้าหมายรายได้ปี 2567 ที่ 3.5 ล้านล้านบาท จะต้องเพิ่มเป็น 3.76-3.85 ล้านล้านบาท แต่หากทำงานแล้วมันไม่ถึงก็ถือว่าทำเต็มที่แล้ว”
นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเที่ยวไทยตั้งแต่ 1 ม.ค.-7 ก.ค. 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 18,206,539 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 858,249 ล้านบาท นักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน จำนวน 3,588,220 คน มาเลเซีย จำนวน 2,554,599 คน อินเดีย จำนวน 1,075,931 คน เกาหลีใต้ จำนวน 965,161 คน และรัสเซีย จำนวน 939,180 คน
สัปดาห์ที่ผ่านมาจากการฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ที่เดินทางเข้ามา 522,295 คน หรือเพิ่มขึ้น 4.55% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการเข้ามาท่องเที่ยวตามรอย MV เพลงRockstar ของลิซ่า ของนักท่องเที่ยวชาวจีน และวันหยุดต่อเนื่องในเทศกาล Awal Muharram Holiday หรือปีใหม่ตามปฏิทินทางศาสนา ในประเทศมาเลเซีย และนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul)
นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการสำนักงานโตเกียว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้าไทยในปี 2568 เห็นสัญญาณบวกฟื้นตัวดีต่อเนื่อง น่าจะได้ไม่น้อยกว่า 1.1 ล้านคน เติบโต 10% เทียบกับปีนี้ ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวสองทางระหว่างไทย-ญี่ปุ่น มีความเป็นไปได้ว่าในปีหน้าไทยจะกลับมาเกินดุลทางการท่องเที่ยวอีกครั้ง
ด้วยปัจจัยการฟื้นตัวของเที่ยวบินและปริมาณที่นั่งโดยสาร ประกอบกับคนญี่ปุ่นยังคงมองประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตร เมื่อคนญี่ปุ่นสามารถปรับตัวกับเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อได้ ก็น่าจะออกมาจับจ่ายมากขึ้น จากตอนนี้ที่ยังคงช็อกกับเงินเฟ้อและของแพงอยู่
ส่วนปี 2567 ตลาดญี่ปุ่นเที่ยวไทยยังไม่กลับมา 100% จากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ค่าเงินเยนร่วงหนัก แม้คนญี่ปุ่นต้องการเดินทาง แต่ยังลังเลเพราะค่าใช้จ่ายสูง ทั้งตั๋วเครื่องบิน ทั้งโรงแรมที่พัก เกิดความกังวลใจในการเดินทาง ขณะเดียวกันปริมาณที่นั่งโดยสารเครื่องบินฟื้นตัว 70% เทียบกับปี 2562 ก่อนโควิดระบาด แต่ถึงอย่างไรประเทศไทยก็ยังมีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเดสติเนชันอื่นๆ โดย ททท. คาดว่าช่วงต้นปี 2568 ตลาดญี่ปุ่นเที่ยวไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ น่าจะใช้เวลาอีก 2 ปี มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นตัวกลับมาที่ระดับ 1.8 ล้านคนในปี 2569