ยิ่งเป็นกระแสร้อนแรงมากขึ้นกับการเอารัดเอาเปรียบประชาชนโดยบริษัทปล่อยสินเชื่อนอกระบบธนาคาร(นอนแบงก์) ที่คุ้นหูกันดีเช่นกลุ่มนาโน หรือพิโก ไฟแนนซ์ ที่ปล่อยสินเชื่อรายย่อยโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และกลุ่มจำนำทะเบียนรถยนต์ โดยเฉพาะกลุ่มหลังถือว่าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่มีวงเงินสะพัดปีละหลายแสนล้านบาท

ที่ผ่านมากลุ่มจำนำทะเบียนรถยนต์ หรือลิสซิ่ง เคยถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการคิดดอกเบี้ยบวกกับค่าธรรมเนียม สูงเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง หน่วยงานรัฐจึงโยนกันไป โยนกันมา อีกส่วนมาจากสัญญา เพราะหากดูเฉพาะดอกเบี้ยไม่ถือว่าเกิน แต่จริงๆ แล้วกลับคิดค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าธรรมเนียมต่างๆ หรือค่าติดตามทวงถาม ทั้งที่บางครั้งไม่ได้ทวงถามจริง

ด้วยเหตุนี้ทำให้กระทรวงการคลังยกร่าง‘พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน นอกกำกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) พ.ศ….’ เพื่อจัดระเบียบธุรกิจปล่อยเงินกู้ รับจำนำทะเบียนรถ หรือกลุ่มนอนแบงก์ เหล่านี้

ขณะที่ร่างฯ ดังกล่าวกำลังพิจารณา กลุ่มประชาชนยังร้องเรียนถึงปัญหาอยู่เนืองๆ จนทำให้ล่าสุด“กลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ลูกหนี้” ที่เกิดจากการรวมตัวกันของลูกหนี้ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้เอาผิดกับบรรดาธุรกิจลิสซิ่งปล่อยสินเชื่อและเงินกู้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน(นอนแบงก์) ตลอดจนผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ ที่มีพฤติการณ์เอารัดเอาเปรียบประชาชน โดยทำสัญญาเงินกู้ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่ขัดกฎหมาย เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และค่าบริการเงินกู้ที่เอาเปรียบประชาชน

โดยระบุว่าลิสซิ่งบางรายเรียกเก็บดอกเบี้ยและอื่นๆ รวมกันแล้วสูงถึง 30-50%

ก่อนหน้านี้กลุ่มประชาชน พยายามเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ มาตรวจสอบกรณีเหล่านี้ แต่ด้วยปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่กลุ่มลิสซิ่ง และนอนแบงก์ ไม่ได้ขึ้นกับหน่วยงานใดโดยตรงอย่างเป็นกิจลักษณะ ทำให้ไม่มีอะไรคืบหน้า

กระทั่งกระทรวงการคลังต้องเสนอร่างพ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินฯ แต่ยังต้องรออีกหลายขั้นตอน ทำให้ประชาชนต้องก้มหน้าจ่ายดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมไปเรื่อยๆ เพราะกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีปากมีเสียง เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพวก‘รากหญ้า’ที่ไม่มีเครดิตหรือหลักทรัพย์อื่นๆ ที่จะไปกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินหลักๆ ได้

อย่างไรก็ตามเมื่อเครือข่ายประชาชน โดยกลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ลูกหนี้ เริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้นและถึงขึ้นยื่นหนังสือถึงนายกฯ ทำให้ลิสซิ่งบางรายเริ่มระมัดระวังในการคิดค่าธรรมเนียม เช่น บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ในเครือแบงก์กรุงศรีอยุธยา ประกาศปรับลดดอกเบี้ยจำนำทะเบียนรถทุกชนิดเหลือ 0.68% ต่อเดือน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเติม แต่ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่ยังไม่ขยับใดๆ โดยเฉพาะบริษัทระดับ‘ท็อป’ของประเทศ

การที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง เสนอร่างพ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินฯ ถือเป็นแนวคิดที่ดี แต่เพราะยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าจะบังคับใช้ จึงทำให้เครือข่ายประชาชน เรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการเฉพาะหน้าออกมาช่วยเหลือ

เพราะหากยังปล่อยไปตามยถากรรมแบบนี้ กลุ่ม‘รากหญ้า’คงกลายเป็นกลุ่ม‘รากเลือด’แน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน