ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ดำเนินการโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีประมาณ 4,910 โครงการ หรือ 95% ของโครงการทั้งหมด 5,176 โครงการ โดยในปีงบประมาณ 2567 ดำเนินการ 1,099 โครงการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ติดตามผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นในปี 2566 ที่ผ่านมา ในโครงการสำคัญๆ รวม 36 โครงการ
เมื่อติดตามผลสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 36 โครงการที่สศก. ได้ติดตาม พบว่า ภาพรวมช่วยเกษตรกรได้รับการส่งเสริมความรู้รวมแล้วกว่า 40,417 ราย เกิดผลสัมฤทธิ์ 4 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านเศรษฐกิจครัวเรือน ภาพรวมเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 14,929 บาทต่อครัวเรือนต่อปี ลดรายจ่ายครัวเรือนจากการบริโภคอาหารในแปลงการเกษตรของตนเองเฉลี่ย 3,933 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และลดรายจ่ายการเกษตรจากการผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักและสารชีวภาพ นำมาใช้ทดแทนสารเคมีเฉลี่ย 3,750 บาทต่อครัวเรือนต่อปี
2.ด้านสังคมครัวเรือน ก่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร เกษตรกร 98% ได้บริโภคอาหารครบ 3 มื้อ 92% บริโภคอาหารครบ 5 หมู่ นอกจากนี้ เกษตรกร 67% มีการรวมกลุ่ม และ 86% มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ทำให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันให้กับเกษตรกร
3.ด้านการจัดการทรัพยากร พบว่า เกษตรกรปรับเปลี่ยนมาทำการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ดินและน้ำ ปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันการพังทลายของดินในชุมชน ทำให้คุณภาพดินดีขึ้น 84% พืชพันธุ์มีความหลากหลาย 52%
และ 4.ด้านการขยายผลการน้อมนำแนวพระราชดำริไปปฏิบัติ พบว่า เกษตรกร 85% ยังมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และเผยแพร่ความรู้ไปยังเกษตรกรรายอื่น นอกจากนี้ ยังเกิดทายาทการเกษตรถึง 86%
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า กระทรวงเกษตรฯ ยังได้วางแนวทางโครงการพระราชดำริ เพื่อร่วมขับเคลื่อนไปสู่วิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND น้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ ศึกษา ถอดบทเรียน สืบสานแนวคิด วิธีการ และประสบการณ์ที่ได้จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาพัฒนาด้านการเกษตร สิ่งแวดล้อม ทั้งการผลิต การพัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาพันธุ์พืช/สัตว์ ดิน ปุ๋ย การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ตลอดจนพัฒนา Soft Power สร้าง Gimmick ชูจุดขายในพื้นที่ และเสริมสร้างสนับสนุนให้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เช่น เขื่อน อ่างเก็บน้ำต่างๆ เป็นต้น