น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับ บลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัททั้งปีนี้มั่นใจเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 4 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) และธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจดิจิทัล คาดว่าจะมีอัตรากำไรสูงกว่า 50% และจบปีนี้ลุ้นว่าจะมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการลงทุนต่อเนื่องของบริษัท โดยปีนี้ลงทุน 15,000 ล้านบาท ซึ่งงบลงทุนมากที่สุดกว่า 9,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีนี้ที่ผ่านมาสัญญาณประเทศไทยเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจเข้ามาลงทุนสร้างฐานผลิตในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ จีน ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งแต่ละรายมีความต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์รถไฟฟ้า (เอวี) และอิเล็กทรอนิกส์ และมองว่าจะเป็นเช่นนี้ไปได้อีกในระยะยาว
“ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของยุคทองของอาเซียนที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิต ปรับเพิ่มประมาณการขายที่ดินจากเป้าหมายเดิมที่ 2,275 ไร่ เป็น 2,500 ไร่ โดยมูลค่าสัญญาขายที่ดินคาดว่าจะเติบโต 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากปัจจุบันบริษัทมีนิคมอุตฯอยู่ 12 นิคมอุตฯ ในไทย และอีก 1 นิคมอุตฯ ในเวียดนาม”
สำหรับแผนในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมใหม่ 6 โครงการ โดยเป็นโครงการพัฒนาใหม่ 4 แห่ง และขยายพื้นที่โครงการเดิมอีก 2 แห่ง โดยมีที่ดินรอพัฒนาอีกเกือบ 10,000 ไร่ในไทย ส่วนในโครงการในเวียดนามยังคงมีการขยายอีก 2 นิคมอุตฯ ในขณะที่อีก 3 ธุรกิจ มุ่งเน้นการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสริมสร้างศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตควบคู่การเดินหน้าสู่ความเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ