พิชัย เผย นอมินีทุบเศรษฐกิจไทยพังกว่า 1หมื่นล้านบาท สั่งฟันแล้ว 747 ราย ในธุรกิจท่องเที่ยว-อสังหา ระบุมาตรการตรวจเข้มฉุดสินค้านำเข้าจากจีนลดลง27% ด้านสมอ ตั้งเป้าปีหน้าเพิ่มมาตรฐานสินค้าอีก53รายการ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้(9ธ.ค.) ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ครั้งที่ 2/2567 เพื่อเร่งออกมาตรการที่จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยในช่วง โดยผลการดำเนินการปราบรามในช่วง3เดือนที่ผ่านมาเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าจากจีนผ่านช่องทางออนไลน์จะต้องแก้ปัญหาร่วมกันซึ่งปัญหาที่มีถือว่าเป็นส่วนน้อย ต้องแก้ไขปัญหาด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้ทั้ง2ฝ่ายพัฒนาการค้าร่วมกันได้อย่างต่อเนื่อง
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์กล่าวว่า ที่ ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินการปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนอมินี ระหว่างวันที่ 1ก.ย.-4ธ.ค. 2567 โดยได้ดำเนินคดีไปแล้ว 747 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางธุรกิจรวม 11,720ล้านบาท แบ่งเป็นธูรกิจท่องเที่ยว 85 คดี อสังหาริมทรัพย์ 216 คดี ขนส่ง 10 คดี และธุรกิจอื่นๆ 436 คดี
นอกจากนี้ยังพบว่าการปัญหาการนำเข้าสินค้าจากจีนผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) ปี2567 เทียบกับช่วงก่อนบังคับใช้มาตรการปรับลดลงต่อเนื่อง โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าจีนรวม ลดลงจาก จาก 18,680 ล้านบาท เหลือ 9,116 ล้านบาท หรือลดลงจาก เฉลี่ยเดือนละ 3,112 ล้านบาท เหลือเพียง 2,279 ล้านบาท คิดเป็นอัตราลดลงราว 27 %
นายนภินทรกล่าวถึงผลการดำเนินการปราบปรามปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ.ในช่วงที่ผ่านมาแยกตามหน่วยงานว่า กรมศุลกากร ได้ดำเนินคดีรวม 12,145 ราย มูลค่าความเสียหาย 529 ล้าน มีทั้งสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าอุตสาหกรรม ,สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินคดี 30,393 รายการ กับสถานประกอบการจำนวน 34แห่ง , สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ดำเนินคดี 59 ราย มูลค่าความเสียหาย 33.6ล้ านบาท อาทิ นำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผ้บริโภค(สคบ.) ดำเนินคดี 159 ราย มูลค่าความเสียหาย 27.8 ล้านบาท เช่น สื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นเท็จ หรือเกินจริง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายด้านฉลาก เป็นต้น ,กรมทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินคดี 177 ราย มูลค่าความเสียหาย 153 ล้านบาท และสำนักพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ดำเนินคดี 30,676 เรื่อง
ทั้งนี้คณะกรรมการฯได้มีการวางแผนแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นภายในเดือนธ.ค.2567 สมอ. จะเร่งเพิ่มมาตรฐานสินค้าอีก 58รายการ จากปัจจุบัน 144 รายการ รวม เป็นทั้งสิ้น 202 รายการ โดยล่าสุดพิ่มได้แล้ว 5รายการ อาทิ เหล็ก และจะเพิ่มอีก 53 รายการในปี 2568 ด้านอย.จะกักและเก็บตัวอย่างสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงก่อนการตรวจปล่อย เพิ่มชนิดสารที่จะตรวจสอบ พร้อมกับเฝ้าระวังในท้องตลาดด้วยการสุ่มตรวจผักผลไม้ และลงพื้นที่ตรวจสอบผักนำเข้า
ส่วนกรมศุลการกรจะเข้มงวดการตรวจสอบสินค้านำเข้า เพิ่มอัตราการเปิดตู้จาก 20% เป็น 30% ขณะที่ สคบจะติดตามและตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจที่โฆษณาขายสินค้าที่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคผ่านสื่อ สังคมออนไลน์ สิ่งพิมพ์ และป้ายโฆษณาต่างๆ รวมทั้งควบคุมการจัดทำฉลากสินค้าและคู่มือการใช้งานสินค้าเป็นภาษาไทยของสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่นำมาจำหน่ายในไทย เป็นต้น