เดินหน้าทลายทุนผูกขาด “พิชัย” ควง “สุชาติ” นำพาณิชย์ ปรับลด-ปลดล็อกสต๊อกข้าว เปิดโอกาสรายย่อย ลดต้นทุนคนตัวเล็กส่งออกข้าว เริ่มบังคับใช้สิ้นเดือนนี้
วันที่ 17 ม.ค. 2568 ที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวพุทธศักราช 2489 ครั้งที่ 1/2568 เพื่อทลายทุนผูกขาด เพิ่มโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในการส่งออกเสรีข้าว ตามนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน และนางอารดา เฟื่องทอง ร่วมด้วย
นายพิชัย กล่าวว่า คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบการแก้ไขปรับปรุงกฎระเบียบการขออนุญาตประกอบการค้าข้าว เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในการส่งออกข้าว ได้แก่
1.ปรับเงื่อนไขการสต๊อกข้าวของผู้ส่งออก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ (ม.ค.68) โดย 1.1 กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ ไม่ต้องสต๊อกข้าว 1.2 ผู้ประกอบการรายย่อย ที่เป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 10 ล้านบาท ปรับลดสต๊อกข้าวจาก 500 ตัน เหลือ 100 ตัน
2.ปรับค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวประเภทผู้ส่งออกทั่วไป และผู้ส่งออกข้าวสารบรรจุหีบห่อ 2.1 กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ ไม่เก็บค่าธรรมเนียม ในการขออนุญาต
2.2 ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ขออนุญาตเป็นผู้ส่งออกทั่วไปบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 10 ล้านบาท ลดค่าธรรมเนียมให้จาก 50,000 บาท เหลือ 10,000 บาท สำหรับบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 10 – 20 ล้านบาท เหลือ 30,000 บาท
2.3 สำหรับผู้ส่งออกข้าวสารบรรจุกล่องหรือหีบห่อ (ส่งออกแบบมีบรรจุภัณฑ์ ไม่เกิน 12 กิโลกรัม) ลดค่าธรรมเนียมให้จากเดิม 20,000 บาท เหลือ 10,000 บาท
นายพิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับลดค่าธรรมเนียมจะต้องออกเป็นกฎกระทรวง ซึ่งต้องมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาร่างกฎกระทรวง คาดว่าจะดำเนินการได้เรียบร้อยภายในมี.ค. 2568 และหลังจากนี้จะดำเนินการต่อในระยะที่ 2 และ 3 เพื่อเป้าหมายการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กสามารถผลิต และแข่งขันกับต่างประเทศได้
นายกฯ ต้องการให้เกิดการค้าข้าวเสรี มีเป้าหมายยกเลิกสต๊อกและค่าธรรมเนียมทั้งหมด รวมถึงการร่วมมือในการจดตั้งบริษัทและการขออนุญาตเป็นผู้ประกอบการค้าข้าวและผู้ส่งออกข้าวให้เสร็จภายในการขอครั้งเดียว
โดยในการปรับปรุงกฎระเบียบนี้ กรมการค้าภายในได้เปิดรับฟังความเห็นของผู้ประกอบการค้าข้าว ทั้งผู้ส่งออก โรงสี ทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ภาคเกษตรกร และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว ตั้งแต่เดือนธ.ค.2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทุกฝ่ายเห็นว่าเป็นประโยชน์ช่วยลดต้นทุน และเป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยสามารถส่งออกข้าวได้เอง