กรุงเทพประกันภัย กางแผนปี68 ดันเบี้ยรับแตะ3.4หมื่นล้าน เล็งร่วมทุนจีนเปิดอู่ซ่อมอีวี

นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่าปี 2568 ภาพรวมความเปราะบางของเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติและโรคระบาด มีผลต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมประกันภัย มีความยากขึ้น รวมไปถึงปัจจัยหนี้ครัวเรือนสูง ทำให้มีความท้าทายต่อการขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมเติบโตได้ยากด้วยเช่นกัน

โดยในส่วนของกรุงเทพประกันภัยในปีนี้ ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมที่ 34,200 ล้านบาท เติบโต 8% แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ หรือมอเตอร์ 14,700 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ไม่ใช่ปะกันภัยรถยนต์ หรือนอนมอเตอร์ 19,500 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 31,736.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 1,871.0 ล้านบาท ลดลง 9.6% ส่วนกำไรจากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 1,799.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.5% ทำให้บริษัทมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 3,670.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% และมีกำไรสุทธิ 3,059.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5%

“แนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 1.5-2.5% คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง 2.91-2.95 แสนล้านบาท จากการเร่งขยายโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ และยังมีความเสี่ยงจากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 รวมถึงปัจจัยค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อทางการแพทย์ ”

จากสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนผนวกกับภาระหนี้สินครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้มีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ส่งผลต่อเนื่องกับยอดขายบ้านและรถยนต์ เป็นปัจจัยที่ทำให้ เบี้ยประกันอัคคีภัยและประกันภัยรถยนต์ชะลอ รวมทั้งมาตรการด้านภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มแรงกดดันต่อการค้ากับประเทศจีน และส่งผลให้สินค้าจากจีนทะลักเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่แนวโน้มการแข่งขันด้านราคาจะรุนแรงขึ้นสถานการณ์ดังกล่าวอาจนำไปสู่ความผันผวนของราคาและทุนประกันภัยที่บริษัทประกันวินาศภัยต้องจับตา

ทั้งนี้บริษัทมีแผนร่วมทุนกับนักลงทุนจีนเพื่อเปิดอู่ซ่อมรถยนต์อีวี โดยเบื้องต้นเน้นเปิดในกรุงเทพฯ รองรับการเติบโตของรถยนต์อีวี และพัฒนาสู่รถยนต์ไฮโดรเจน ซึ่งจะเป็นแนวโน้มใหม่ของตลาดรถยนต์ใน 7 ปีจากนี้ ทำให้กลยุทธ์ธุรกิจของบริษัทในปีนี้ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนยุคใหม่ ควบคู่กับการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการบริการ นำเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชันมาเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงาน

โดยเตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชัน Bangkok Insurance เพื่อ ดูแลลูกค้าให้เข้าถึงบริการประกันภัยได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งมีการพัฒนาฟีเจอร์มาเพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่โดยเฉพาะ เช่น Video Claim แจ้งเคลมรถยนต์ผ่านวิดีโอคอลกับเจ้าหน้าที่ ส่งพิกัดแจ้งสถานที่รถเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้รวดเร็ว อาทิ Tracking ติดตามสถานะเคลมสินไหมทดแทน

น.ส.ลสา โสภณพนิช ผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่าบริษัทยังคงเดินหน้าในส่วนของผลิตภัณฑ์ประกันภัยโรคร้ายแรง ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมโรคสำคัญ อาทิ โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน โรคไตวายเรื้อรัง โรคสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส และโรคเบาหวาน ด้วยความคุ้มครองตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงดังกล่าวเป็นครั้งแรก ด้วยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 1,600 บาทต่อปี

ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ เพิ่มความคุ้มครองสัตว์เลี้ยง สุนัขและแมว เพื่อรองรับเทรนด์ Pet Humanization ที่ครอบคลุมกรณีการได้รับบาดเจ็บของสัตว์เลี้ยง ขณะร่วมเดินทางในต่างประเทศไปกับผู้เอาประกันภัย โดยมีวงเงินคุ้มครอง 10,000 บาท/ตัว/ครั้ง ประกันภัยสำหรับบ้านหรู 20-50 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง โดยจะเพิ่มความคุ้มครองทรัพย์สินมีค่า ความสูญเสียหรือเสียหายของ Solar Rooftop และอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ ซึ่งให้ความคุ้มครองการกู้ข้อมูลที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ ยังครอบคลุมประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล พร้อมบริการเสริมดูแลช่วงพักฟื้นโดยบุคลากรทางการแพทย์ซี่งจะมาดูแลลูกค้าถึงบ้านรวมถึงประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ ขยายอายุรถถึง 25 ปี นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับปรุงแผนประกันภัยรถยนต์ประเภท 3+ ให้สอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหาทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน