สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 ปิดที่ 1,642.25 จุด ปรับตัวลดลง -11.86 จุด คิดเป็น -0.72% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,660.26 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,642.23 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 61,745.95 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,085.80 จุด ปรับตัวลดลง -9.24 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดทำการ
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง เหตุวิตกการเมืองอังกฤษประเด็น Brexit
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดลดลง 31.84 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 6.04 จุด ภายหลังจากที่จีนและสหรัฐได้เพิ่มเก็บภาษีสินค้าเพิ่มเติมซึ่งกันและกันเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดลบ 98.70 จุด ขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการประท้วงที่รุนแรง รวมถึงข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากทั้งสองฝ่ายได้เริ่มบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดบวกเพียง 4.97 จุด ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ขณะที่ตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นการซื้อขาย
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. GULF มูลค่าการซื้อขาย 5,586.87 ล้านบาท ลดลง -1.50 บาท คิดเป็น -0.95%
2. GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,726.47 ล้านบาท ลดลง -1.00 บาท คิดเป็น -1.37%
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,990.18 ล้านบาท ลดลง -0.75 บาท คิดเป็น -1.72%
4. CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,913.13 ล้านบาท ลดลง -1.00 บาท คิดเป็น -3.45%
5. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,856.83 ล้านบาท ลดลง -1.00 บาท คิดเป็น -1.20%
ดัชนีอ่อนตัวกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแม้ว่าในช่วงเช้าดัชนีจะขยับขึ้นทำ New high ได้เล็กน้อย ผิดจากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวขึ้นต่อ ทำให้โอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวเป็นขาขึ้นต้องชะลอออกไปชั่วคราว โดยระยะสั้นๆ วันนี้(4) ดัชนีต้องประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 และ 200 วันแถวๆ 1,648-1,646 จุดให้ได้ก่อน ดัชนีจึงจะพอมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านในช่วงนี้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 1,674 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
