รายงานพิเศษ : เปิดทัศนะ‘กูรู’ร่วมวิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทย-ราคาทองคำ2564

เปิดทัศนะ‘กูรู’ร่วมวิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทย-ราคาทองคำ2564 : ปี2563 ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,449 จุด ปรับตัวลดลง -8.3% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2562

ดัชนีทำจุดสูงสุดของปีเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2563 ที่ 1,600.48 จุด และดัชนีต่ำสุดของปี วันที่ 23 มี.ค.2563 ที่ระดับ 1,024.46 จุด

การลดลงของตลาดหุ้นไทยปีที่ผ่านมาเป็นผลจากการโรคโควิด-19 ที่สร้างความปั่นป่วนอย่างหนักให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมี.ค.2563 จวบถึงปัจจุบัน

ขณะที่ปี 2564 ถือเป็นปีแห่งความหวัง หลังวัคซีนเริ่มผลิตและกระจายให้ทั่วโลก โดยบางส่วนเริ่มใช้วัคซีนแล้ว ประเทศไทยคาดว่าจะเริ่มได้รับวัคซีนในเดือนก.พ.นี้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไทยต้องเผชิญกับโควิดระลอกใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และแนวโน้มตลาดทองคำอย่างไร

เริ่มที่ นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2563 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของหลักทรัพย์ที่มีการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) อยู่ที่ 5.55 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 8 ของโลก อันดับ 2 ในเอเชีย รองจากจีน และสูงสุดในอาเซียนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

เปิดทัศนะ‘กูรู’ร่วมวิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทย-ราคาทองคำ2564

ภากร ปีตธวัชชัย

ส่วนในปี 2564 มาร์เก็ตแคปของหลักทรัพย์ไอพีโอยังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่องจาก 2 ปีที่แล้ว

การเข้ามาระดมทุนของผู้ประกอบการในปีนี้จะขึ้นกับ 3 ปัจจัย

1.ความพร้อมด้านข้อมูลของบริษัทที่จะเข้ามาระดมทุน กับบริษัทที่สนใจที่เข้ามาระดมทุนอยู่แล้ว

2.ความต้องการใช้เงินทุนของบริษัทว่าอยู่ในช่วงไหน
และ 3.ภาวะตลาดหุ้นในช่วงนั้นเป็นอย่างไร

ส่วนเป้าหมายที่จะดึงบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเกิดใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่อยู่ใน 10 อุตสาหกรรม เป้าหมาย (นิวเอสเคิร์ฟ) ตามนโยบายของภาครัฐ

ขณะเดียวกันตลาดหลัก ทรัพย์อยู่ระหว่างปรับหลักเกณฑ์ด้านการพิจารณากำไร เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทขนาดใหญ่ที่มีจำนวนลูกค้ามากๆ แล้วมีผลต่อระบบเศรษฐกิจ รวมถึงสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

นอกจากนี้ ในแง่ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง หลังจากในปี 2563 การซื้อขายต่อวันเกิน 1 แสนล้านบาท มีมากถึง 22 วัน ทำให้มูลค่าซื้อขายต่อวันเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 68,000 ล้านบาท

ปี 2563 ซึ่งเกิดสถานการณ์โควิด-19 แต่มีนักลงทุนหน้าใหม่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นถึงกว่า 6 แสนบัญชี

ปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ยังเดินหน้าขยายฐานนักลงทุนหน้าใหม่ด้วยการเปิดตัวพันธมิตรใหม่ๆ เช่น กลุ่มธุรกิจที่ทำรอยัลตี้ โปรแกรม ผ่านการสะสมคะแนนให้ลูกค้า ซึ่งตรงนี้สามารถนำคะแนนมาแลกผลิตภัณฑ์การลงทุนได้ เป็นต้น

 

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่าการระบาดซ้ำของโควิด-19 ในขณะนี้ นักลงทุนเริ่มคลายความกังวล เนื่องจากปัจจุบันผลิตวัคซีนออกมาใช้ได้แล้ว

อย่างไรก็ดี ต้องจับตาว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่จะสามารถผลิตวัคซีนออกมาได้ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการได้มากแค่ไหน และประสิทธิภาพดีขนาดไหน

เปิดทัศนะ‘กูรู’ร่วมวิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทย-ราคาทองคำ2564

ไพบูลย์ นลินทรางกูร

นายไพบูลย์ประเมินเป้าดัชนีหุ้นไทยปีนี้ที่ 1,600 จุด เนื่องจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะเติบโต 40% และน่า จะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยไป ต่อได้

ประกอบกับเงินทุนทั่วโลกไหลเข้า ‘Emerging Market’ (ตลาดเกิดใหม่) มากขึ้น เชื่อว่าเมื่อมีวัคซีนมาตลาดเกิดใหม่ ก็สามารถบริหารจัดการกับ โควิดได้ พร้อมกันนี้มองว่าค่าเงินดอลลาร์ปีนี้จะยังอ่อนค่า อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ตลาดเกิดใหม่มีความน่าสนใจ มากขึ้น

บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2564 ผันผวนขึ้นลงรุนแรงแต่จะมีแนวโน้มอิงทางขึ้นเป็นหลัก ตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 2 ตามความคาดหวังวัคซีนโควิด-19

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ หลัง ผ่านจุดต่ำสุดของวัฏจักรเศรษฐกิจไปแล้ว แต่หลังจากที่ทั่วโลกประกาศใช้วัคซีนกันถ้วนหน้าแล้วตลาดหุ้นไทยจะปรับฐานเข้าสู่ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นรายตัวมากขึ้น

เช่น หุ้นที่มีผลประกอบการแข็งแกร่งจะไม่ถูกเทขายทำกำไรเท่าไรนัก ส่วนหุ้นที่มีผลประกอบการยังไม่แข็งแรงก็อาจจะถูกเทขายค่อนข้างมาก

ขณะที่คาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนในปี 2564 อยู่ที่ 77 บาทต่อหุ้นบนสมมติฐานที่ราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ P/E ที่ 20 เท่า ขณะที่คาดดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 2564 จะอยู่ที่ 1,550 จุด

ธีมการลงทุนปีนี้ ได้แก่ หุ้นที่อิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คือ กลุ่มธนาคาร กลุ่มขนส่ง และกลุ่มสินค้าที่เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจหรือ Consumer Cyclical

ด้าน นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด มองว่าตลาดหุ้นไทยในปีนี้มีแนวโน้มสดใสกว่าปี 2563 เป็นผลมาจากคาดหวังของการฟื้นตัวของธุรกิจและเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อเนื่องถึงปี 2565

เปิดทัศนะ‘กูรู’ร่วมวิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทย-ราคาทองคำ2564

สุกิจ อุดมศิริกุล

โดยเฉพาะธุรกิจที่ขึ้นกับวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคาร การบริโภค และการท่องเที่ยว เป็นต้น

ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ประเมินว่าจะฟื้นตัวโดยเติบโตได้ 40% จากปีก่อน และในปี 2565 จะเติบโตจาก ปีนี้ 19% โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยนอกจากได้ข่าวดีจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ยังได้เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาเป็นปัจจัยหนุนด้วย

นายสุกิจยังได้ให้เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ที่ 1,450-1,500 จุด อ้างอิงจากปัจจัยพื้นฐานแต่ในบางช่วงเวลามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไป 5-10% ทำให้ดัชนีมีโอกาสขึ้นไป 1,600-1,650 จุด จากปัจจัยหนุนของสภาพคล่องในตลาดการเงินที่สูง

น.ส.ธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ประเมินว่าดัชนีหุ้นไทยปลายปีจะอยู่ที่ระดับ 1,600 จุด

การผลิตวัคซีนที่มีแผนจะนำออกมาใช้ได้ในกลางปีนี้น่าจะทำให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ส่งผลให้ไทยเริ่มทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง

เปิดทัศนะ‘กูรู’ร่วมวิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทย-ราคาทองคำ2564

ธิดาศิริ ศรีสมิต

ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนการสร้างรายได้สูงถึง 13% ของจีดีพีไทย ดังนั้น หากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ เศรษฐกิจไทยก็น่าจะมีการฟื้นตัวได้ดีตามลำดับ

ขณะที่ทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้มองหาผลตอบแทนจากการลงทุน

น.ส.เบญจมา มาอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือวายแอลจี ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า แม้วันทำการแรกของปี 2564 ราคาทองคำจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนทะลุผ่านกรอบ Sideway Down หรือแกว่งตัวในทิศทางอ่อนตัวลงในระยะกลาง

หลังจากนั้นไม่กี่วันราคาทองคำก็ปรับตัวลงแรง ทำให้ภาพรวมทางเทคนิคในระยะกลางของทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบทิศทางอ่อนตัวลงอีกครั้ง

เปิดทัศนะ‘กูรู’ร่วมวิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทย-ราคาทองคำ2564

เบญจมา มาอินทร์

อย่างไรก็ดี หากราคายังทรงตัวรักษาระดับนี้ไว้ได้ ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบกรอบด้านบนในบริเวณ 1,966-1,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27,950 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน พ.ย.2563 และระดับสูงสุดของเดือนม.ค.2564 ที่ผ่านมา

ขณะที่ให้กรอบด้านล่างของราคาอยู่ที่บริเวณ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือนพ.ย. 2563 เช่นกัน หรือ 25,100 บาทต่อบาททองคำ

แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้กราฟเทคนิคมีมุมมองเชิงลบมากขึ้น ซึ่งทำให้ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงต่อได้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ปรับกรอบระยะเวลาการลงทุนให้สั้นลง โดยเน้นเล่นรอบตามแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาเป็นหลัก เข้าซื้อหากราคาทองคำปรับตัวลงทดสอบกรอบล่างบริเวณ 1,806-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 25,650-25,100 บาทต่อบาททองคำ

ตั้งตัดขาดทุนทันทีหากราคาหลุดบริเวณ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 25,100 บาทต่อบาททองคำ

พร้อมกันนี้แนะนำให้นักลงทุนควรขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ โดยกรอบแนวต้านจะอยู่ที่ 1,966-1,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27,950 บาทต่อบาททองคำ

แต่หากผ่านแนวดังกล่าวได้แนะนำถือต่อเพื่อรอขายบริเวณแนวต้านถัดไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน