นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ในเครือ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย หรือ ICO Portal เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. บริษัทเตรียมเปิดขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ (Siri Hub Token) ซึ่งเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทโทเคนดิจิทัลที่อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ ตัวแรกของประเทศไทย ที่สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตอนุญาตให้เสนอขายต่อประชาชน ให้เสนอขายต่อประชาชนในราคาเสนอขายที่ 10 บาทต่อโทเคน และมูลค่าการจองซื้อขั้นต่ำ 10 บาท โดยใช้วิธีชำระเงินก่อนจะได้รับจัดสรรก่อน (เฟิร์ส คัม เฟิร์ส เซิร์ฟ) เสนอขายจำกัดที่ 240 ล้านโทเคน วงเงินระดมทุน 2,400 ล้านบาท

โดยเงินที่ได้ยากการขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ ดังกล่าว จะนำไปลงทุนอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส และหุ้นร้อยละ 100 ของสิริพัฒน์ โฟร์ ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส ที่ตั้งอยู่ภายใน T77 คอมมูนิตี้แห่งการอยู่อาศัย ที่มีบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้เช่าอาคารสำนักงานเต็มพื้นที่ 100% เพียงรายเดียว ภายใต้สัญญาเช่าระยะยาวถึง 12 ปี อัตราค่าเช่าปีละ 149 ล้านบาท ทำให้โครงการนี้มีรายรับที่แน่นอนและต่อเนื่องตลอดอายุโครงการ 4 ปี โดยกระแสรายรับที่ได้รับภายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง จะนำมาจัดสรรเป็นส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสให้แก่ผู้ถือโทเคน และภายในระยะเวลา 12 เดือนก่อนสิ้นสุดอายุโครงการ ผู้ออกโทเคนจะจัดให้มีกระบวนการในการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการ เพื่อนำเงินที่ได้มาจัดสรรเป็นรายได้ส่วนสุดท้ายให้แก่ผู้ถือโทเคนอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่มีความเสี่ยงจากผู้เช่าไม่จ่ายค่าเช่า เนื่องแสนสิริ เป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์สูงถึงแสนล้านบาท แต่ทั้งนี้ อาจมีความเสี่ยงจากการขาย ณ ปีที่สิ้นสุดอายุโครงการ อาจไม่ได้ราคาตามที่คาดหวัง แต่อย่างไรก็ดี จากบทวิเคราะห์ราคาที่ดินของศูนย์วิจัยและประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย พบว่าราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงโครงการ ล่าสุดราคาอยู่ที่ 1.1 ล้านบาท/ตร.ว. และมีอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 10% นับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินโครงการมีศักยภาพที่ดี และมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง

ดังนั้การลงทุนโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ สิริฮับ A (SiriHubA) และ สิริฮับ B (SiriHubB) จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารซึ่งปัจจุบันไม่ถึง 1% ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุน ไปฝากธนาคาร และเป็นการลงทุน Siri Hub Token ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ 4.5-8% ขึ้นอยู่กับว่าจะลงทุน A หนือ B รวมถึงสามารถใช้เงินลงทุนเริ่มตั้นตั้งแต่ 10 บาท เทียบกับการลงทุนในหุ้นบลูชิพ หรือหุ้นที่มีพื้นฐานธุรกิจที่ดี มีความมั่นคง ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง จะต้องใช้เงินลงทุนสูง

นอกจากนี้ การจองซื้อ Siri Hub Token ไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์ สามารถจองผ่านแอพพลิเคชัน XSpring ทั้งในระบบ iOS และ Android เพียงทำการยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อให้ได้รับอนุญาตเข้าสู่บัญชีรายชื่อผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (Whitelists) ให้ลงทุนในโทเคนดิจิทัล โดยจะเปิดให้จองตั้งแต่เวลาตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 21 ก.ย.นี้ พร้อมชำระค่าจองซื้อได้ทันที ซึ่งขณะนี้มียอดการดาวน์โหลดแอพฯ และลงทุนลงทะเบียนไว้เกินความคาดหมาย โดยเชื่อมั่นว่าการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทุกประเภทอย่างล้นหลาม พร้อมกันนี้คาดว่า Siri Hub Token ทั้ง 2 กลุ่ม จะเข้าซื้อขายในกระดาน ERX ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ ซึ่งจะเปิดการซื้อขาย 24 ช.ม. ไม่มีวันหยุดทำการ และจะเริ่มจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ถือโทเคนงวดแรกในวันที่ 5 เม.ย. 2565

โดยรายละเอียดการลงทุนสิริฮับ A (SiriHubA) ผู้ลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสไม่เกิน 4.5% ต่อปี และส่วนแบ่งรายได้จากการจําหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดโครงการ โดยจะได้รับรายได้ส่วนสุดท้ายจํานวนสูงสุดไม่เกิน 1,600 ล้านบาทแรกก่อนผู้ถือโทเคนดิจิทัลสิริฮับ ส่วน สิริฮับ B (SiriHubB) ผู้ลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสไม่เกิน 8% ต่อปี และส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดโครงการ โดยจะได้รับรายได้ส่วนสุดท้ายในส่วนที่เกินจาก 1,600 ล้านบาทเป็นต้นไป

“ภาวะตลาดดิจิทัล โทเคน ในต่างประเทศมีการเติบโตมาก คาดการณ์กันว่าในระยะ 2-3 ปีจากนี้ มูลค่าตลาดจะขึ้นไปถึง 2-3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในไทยเพิ่งเริ่มต้นจากสิริฮับ โทเคน และขณะนี้เริ่มมีหลายอุตสาหกรรมให้ความสนใจที่จะระดมทุนในรูปแบบโทเคนดิจิทัลและบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากว่า 10 ราย ครอบคลุมทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว พลังงาน รวมถึงเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้และรูปแบบของโทเคนดิจิทัล”

นายอัฏฐ์ กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมขยายการให้บริการอื่นๆ ทั้งดีลเลอร์และโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการเป็นดีลเลอร์สินทรัพย์ดิจิทัลจากก.ล.ต. คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตดังกล่าวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีบริการใหม่เพิ่มเข้ามาในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้น


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน