สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 มิ.ย. 2565 ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,632.62 จุด -8.72 จุด (-0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 59,628.75 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ นักลงทุนมีความกังวลอยู่ 2 เรื่อง คือ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ในเดือนพ.ค. ที่จะประกาศออกมา และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของยุโรป ซึ่งจะเป็น ปัจจัยกดดันให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ พิจารณาใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ
1. TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,690.53 ล้านบาท -4.00 บาท (-6.58%)
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,199.95 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,761.35 ล้านบาท -1.00 บาท (-0.57%)
4. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,453.95 ล้านบาท +0.25 บาท (+0.66%)
5. KKP มูลค่าการซื้อขาย มูลค่า 1,481.85 ล้านบาท -2.75 บาท (-3.94%)

อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ต้องติดอย่างใกล้ชิด คือ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐประจำเดือนพ.ค. หลังจากก่อนหน้าที่ทะยานขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 8.5% ในเดือนมี.ค. ก่อนจะลดลงมาที่ 8.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งหากเงินเฟ้อล่าสุดออกมาต่ำกว่า 8.3% ตลาดจะคลายกังวลมากขึ้น โดยอย่างน้อยที่สุดเงินเฟ้อน่าจะมีโอกาสผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และแรงกดดันในการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงต่อจากนี้ ของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะไม่เข้มงวดมาก หรือไม่แน่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะไปสิ้นสุดในช่วงเดือนก.ย.นี้ เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ว่าอาจไปจบในช่วงต้นปี 2566 ก็เป็นไปได้ ซึ่งจากแนวโน้มนี้ก็จะมีผลต่อมุมมองในการจัดพอร์ดการลงทุนของนักลงทุนในระยะต่อไป

“หากตัวเลขเงิยเฟ้อสหรัฐ เดือนพ.ค. ที่จะประกาศออกมาต่ำกว่า 8.3% จะเป็นสถานการณ์ที่เป็นบวก และทำให้ภาพรวมการลงทุนมีโอกาสจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ในทางกลับกันหากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่า 8.3% หรือใกล้ๆ 8.5% ตลาดจะเห็นความไม่แน่นนอนและมีโอกาสจะเห็นการตอบรับเชิงลบในช่วงสัปดาห์หน้า”นายกิจพณ กล่าว

สำหรับกรอบดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าโดยคาดว่าจะแกว่งอยู่บริเวณ 1,600-1,690 จุด แต่หากดัชนีไม่หลุด 1,630 จุดลงไป ภาพการแกว่งตัวในกรอบ 1,630 จุดหรือสูงกว่า จะยังมีโอกาสเคลื่นไหวเป็นบวกได้มากกว่าในโซนกรอบล่าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน