สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 24 มิ.ย. 2565 ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,568.76 จุด เพิ่มขึ้น +11.15 จุด (+0.72%) จุด มูลค่าการซื้อขาย 65,946.00 ล้านบาท

โดยหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ
1. SCC มูลค่าการซื้อขาย 4,267.29 ล้านบาท +13.00 บาท (3.55%)
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,340.44 ล้านบาท 0.00 บาท (0.00%)
3. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,638.52 ล้านบาท -0.50 บาท (-0.32%)
4. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,268.62 ล้านบาท -0.20 บาท (-1.61%)
5. ADVANC ปิดที่ มูลค่าการซื้อขาย 1,940.00 ล้านบาท +5.00 บาท (2.54%)

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (27 มิ.ย.-1 ก.ค. 2565) ประเมินว่าตลาดน่าจะทรงตัวในแดนบวกได้ จากหลายปัจจัย คือ 1. ที่ผ่านมาตลาดได้ตอบรับปัจจัยลบระยะสั้นส่วนใหญ่ไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงในระยะข้างหน้าในเรื่องเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด

2. เนื่องจากเป็นสัปดาห์สุดท้ายของวันทำการในไตรมาส 2 ดังนั้นอาจจะได้เห็นหุ้นที่ปรับลงมาค่อนข้างมากมีโอกาสที่นักลงทุน นักลงทุนสถาบัน และกองทุน จะมีการทำตัวเลขทางบัญชีให้ดูดีขึ้น (วินโดว์ เดรสซิ่ง) เช่นหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนราคาแก๊สเป็นหลัก และหุ้นขนาดใหญ่ อย่างกลั่มปิโตรเคมีบางตัว ซึ่งที่ผ่านมาปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ดังนั้นก็มีโอกาสที่จะเห็นการฟื้นตัวในระยะสั้นๆ ได้

“การลงทุนสัปดาห์หน้า ยังไม่มีประเด็นอะไรที่เข้ามาเป็นพิเศษ อย่างไรก็ดี นอกจากหุ้นกลุ่มที่ได้กล่าวข้างต้นแล้ว อีกธีมการลงทุนหนึ่งที่น่าสนใจคือ หุ้นในกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจจีน เนื่องจากตลาดหุ้นจีนปรับตังลมาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก และขณะเดียวกันทางจีนเองก็จะมีการใช้นโยบายกระตุ่นเศรษฐกิจ หลังจากมีการปิดเมืองไปค่อนข้างจะนาน ฉะนั้นแล้วหุ้นในไทยที่อิงกับเศรษฐกิจ หรืออิงกับการหระตุ้นเศรษฐกิจของจีน เช่น DR หรือ ETF ที่อ้างอิงหุ้นจีน ไม่ว่าจะเป็น BABA80 TENCENT80 และ CHINA ETF ซึ่งเราก็มองว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน