น.ส.บุษบา กุลศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC บริษัทในกลุ่ม SINGER ผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อชั้นนำ เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัวภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น หลายธุรกิจเริ่มระมัดระวังและคุมเข้มการใช้จ่ายมากขึ้น เช่นเดียวกับตลาดสินเชื่อที่มีนโยบายเข้มงวด และปล่อยวงเงินด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงต่อการบริหารหนี้โดยรวมเพิ่มขึ้น

แต่ยังมีโอกาสโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ “สินเชื่อจำเป็น” เพื่อใช้ในการฟื้นฟู หรือขยายกิจการหลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งจะเป็นกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมไปถึงสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในกลุ่มแบ่งเบาภาระหนี้ส่วนบุคคลที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น สอดคล้องกับจำนวนหนี้ครัวเรือน ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อรวมหนี้ที่ตอบโจทย์การแบ่งเบาภาระหนี้ส่วนบุคคลให้ลดลงได้

ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ธุรกิจหลายภาคส่วนเริ่มกลับมาลงทุนเพื่อฟื้นฟูกิจการ เร่งปรับเปลี่ยนทิศทางธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดที่ดุเดือด ดังนั้น จึงทำให้ครึ่งปีหลังเป็นช่วงที่หลายธุรกิจต้องการทุนเงินสดเพื่อนำมาใช้หมุนเวียนเป็นแรงขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ต้องการแหล่งเงินทุน พร้อมที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่คุ้มค่าไปพร้อมกับการเดินหน้าธุรกิจได้จริง

นับเป็นโอกาสของสินเชื่อ “รถทำเงิน” ซึ่งเข้าไปตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก โดยการนำสินทรัพย์รถในครอบครองยื่นกู้เพื่อนำเงินสดเป็นทุนหมุนเวียน เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมต่อยอดธุรกิจให้บรรลุตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันยังมีรถไว้ใช้งานได้เหมือนเดิม

ด้วยจุดเด่นผลิตภัณฑ์ที่พร้อมรับรีไฟแนนซ์โดยไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน อนุมัติเร็วใน 1 ชม. โอนไว ทันใจ ให้วงเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายสูงสุดถึง 30 ล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นที่ 0.60% และสามารถเลือกผ่อนขั้นต่ำ 12 เดือน และสูงสุดถึง 60 เดือน

นอกจากนี้ จากการที่ประชาชนส่วนใหญ่มีแนวโน้มแบกรับภาระหนี้สินจากหลายแหล่งเพิ่มขึ้น ทั้งหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลจากสถาบันธนาคารต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) บวกกับค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ ในขณะที่รายได้ค่าแรงปรับขึ้นน้อยหรือถูกปรับลดเงินเดือนเพื่อพยุงกิจการ ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายในแต่ละเดือน ทำให้ต้องกู้เงินจากหลายแหล่งและรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นอีกพร้อมกัน

ด้วยปัจจัยนี้ทำให้ผู้บริโภคมองหาสินเชื่อรวมหนี้ เพื่อลดภาระหนี้ แบ่งเบาค่าใช้จ่ายรายเดือน “สินเชื่อสวัสดิการ SG Capital” (Debt Consolidation) จึงถูกพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์สำหรับลูกค้าที่เป็นพนักงานประจำในองค์กรคู่ค้าที่มีฐานเงินเดือน ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป เพื่อมุ่งเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ช่วยบริหารจัดการรวมหนี้จากส่วนต่างๆ มาจบในที่เดียว ด้วยวงเงินกู้สูงสุด 2,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี โดยการผ่อนชำระเป็นแบบลดต้นลดดอกเบี้ยในเวลาเดียวกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน