เอกชนผวา! ค่าเงินอ่อนแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์ วอนแบงก์ชาติดูแล – ชี้กระทบนำเข้าน้ำมันแพงขึ้น

เอกชนผวา! เงินบาทอ่อน – นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทของไทยปิดตลาดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา แตะระดับ 36.10 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าสุดในรอบกว่า 6 ปี โดยคาดการณ์ว่าค่าเงินบาทของไทยอาจจะอ่อนค่าแตะระดับ 37 บาทต่อเหรียญสหรัฐได้ ตามการไหลออกของเงินทุนต่างชาติหลังเงินสหรัฐและหยวนแข็งค่าขึ้น

ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงต้องติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเห็นว่าการบริหารจัดการจำเป็นต้องวางสมดุลระหว่างการนำเข้า การส่งออก และอัตราเงินเฟ้อเป็นสำคัญเพื่อดูแลเศรษฐกิจภาพรวม โดยค่าเงินบาทไม่ควรผันผวนเร็วเกินไปและต้องสะท้อนภูมิภาค

ทั้งนี้ แม้ว่าบาทอ่อนค่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกในรูปเงินบาทที่จะปรับสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันต้องมองในแง่ของการนำเข้าสินค้าทุนทั้งวัตถุดิบต่างๆ รวมราคาพลังงานโดยเฉพาะน้ำมันดิบที่ไทยต้องพึ่งพิงการนำเข้ากว่า 90% เหล่านี้จะสะท้อนไปยังการผลิตให้มีต้นทุนภาพรวมที่เพิ่มขึ้นได้ซึ่งจะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของไทยให้สูงขึ้นตามท่ามกลางรายได้ประชาชนปัจจุบันก็ไม่พอรายจ่ายจึงอาจไม่ได้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมเพราะจะยิ่งทำให้แรงซื้อประชาชนถดถอย

“บาทอ่อนดีในแง่การส่งออก เพราะแม้ว่าภาคส่งออกส่วนหนึ่งที่มีการนำเข้าวัตถุดิบมาแปรรูปแล้วส่งออกไปเป็นเงินเหรียญ แปลงกลับเงินบาทก็ไม่กระทบ แต่หากการนำเข้าวัตถุดิบมาผลิตแล้วพึ่งพิงตลาดในประเทศมากน้อยก็อาจต่างกันไป อันนี้จะลำบากต้นทุนจะสูงขึ้นมากและจะถูกส่งผ่านไปยังราคาสินค้าปรับตัวเพิ่ม แต่ในแง่ของภาคเกษตรไทยและการท่องเที่ยวจะส่งผลดี โดยเฉพาะการท่องเที่ยวหากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยราว 7-10 ล้านคนในปีนี้ จะทำให้มีความต้องการเงินบาทเพิ่มขึ้นจุดนี้ จะช่วยบรรเทาผลกระทบการอ่อนค่าลงได้บ้าง”นายเกรียงไกรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน