ดัชนีลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย จากความกังวลเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ

สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 11 ก.ค. 2565 ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,557.40 จุด -0.47 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 46,061.27 ล้านบาท

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 111 ก.ค. ดัชนีปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย จากความกังวลของนักลงทุน ต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ออกมาดีกว่าคาดการณ์

ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 สายพันธุ์ BA.4-BA.5 ในประเทศจีน ทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง รวมถึงมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างเบาบางมาก เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน ทำให้มูลค่าการซื้อขายทำระดับต่ำสุดของปีนี้ จากเดิมมีจุดต่ำสุดอยู่ที่ 4.94 หมื่นล้านบาท

โดยหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ
1. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,588.70 ล้านบาท +2.50 จุด (+1.57%)
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,834.38 ล้านบาท +2.50 บาท (+1.74%)
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,684.04 ล้านบาท -0.50 บาท (-1.45%)
4. SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,633.48 ล้านบาท +3.25 บาท (+3.29%)
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,000.60 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังปรับขึ้นได้จำกัด เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯ จะหยุดทำการในวันพุธ ที่ 13 ก.ค. เนื่องในวันอาสาฬหบูชา รวมถึงจะมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในคืนวันพุธด้วย ทำให้คาดว่าจะชะลอการลงทุน ซึ่งมีผลให้ตลาดยังอยู่ในภาวะพักฐาน โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,530-1,540 จุด และแนวต้านที่ 1,565 จุด