นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนก.ค. 2565 ว่า ณ สิ้นเดือนก.ค. 2565 SET Index ปิดที่ 1,576.41 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ปรับลดลง 4.9% จากเดือนก่อนหน้า เป็นในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค ส่วนมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 61,857 ล้านบาท ลดลง 27.5% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน
จากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลายประเทศเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูง ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัว โดยประกาศเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วง 7 เดือนแรกปี 2565 เพื่อชะลอเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา จึงเริ่มเห็นสัญญาณเงินทุนเคลื่อนย้ายออกจากน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ไปยังสินทรัพย์เสี่ยงที่ราคาปรับลดลงมามากจากสิ้นปี 2564
ขณะที่ 7 เดือนแรกปี 2565 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่แข็งค่าจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ทำให้ค่าเงินในภูมิภาค ASEAN อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลบวกต่อภาคการส่งออกและท่องเที่ยวไทย
“ปัจจัยผันผวนมาจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสหรัฐ เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจีดีพีติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน แต่เฟดปรับดอกเบี้ยไม่เร็วและแรงอย่างคาด ส่วนเงินเฟ้อขึ้นแรงเป็นไปทิศทางเดียวกันทั่วโลกแต่หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. SET Index ใน 7 เดือนแรกปีได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร”
