น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่าสุดเคลื่อนไหวแกว่งตัว ในลักษณะแนวโน้มขาขึ้น ท่ามกลางโมเมนตัมแรงซื้อที่เข้ามาได้ดีในระยะสั้น แม้ว่าราคาได้ปรับลดลงมาทดสอบแนวรับที่ 2,690 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ในวันก่อนที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อรอจับตาการแถลงนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายการค้า
โดยในระยะหลังจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของ นายทรัมป์ และคาดการณ์ว่าตลาดการลงทุนจะผันผวนมากขึ้น ทั้งนี้ ในพิธีสาบานตน นายทรัมป์ยังคงให้คำมั่นการกลับมาเพื่อสานต่อนโยบาย America First (อเมริกามาก่อน) และประเด็นสำคัญที่ตลาดจับตาอย่างต่อเนื่องคือนโยบายทางการค้า โดยเฉพาะการตั้งกำแพงภาษีนำเข้า ที่อาจไปเพิ่มความเสี่ยงในการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อ จนทำให้เฟดไม่สามารถปรับลดดอกเบี้ยลงได้ตามแผน และกลับมากดดันทองคำในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ดี จนถึงปัจจุบันราคาทองคำกลับปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่า นายทรัมป์ จะทยอยเปิดเผยแผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าในแต่ละประเทศก็ตาม แต่แผนดังกล่าวมีความผ่อนคลายลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากไม่ได้เป็นการใช้คำสั่งของฝ่ายบริหาร (Executive Order) ในการประกาศใช้ฉุกเฉิน และไม่ได้ขึ้นภาษีแบบเหมารวมทุกประเทศ โดยเฉพาะกับจีนที่ล่าสุด นายทรัมป์ ได้กล่าวว่ากำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ซึ่งท่าทีดังกล่าวมีความแข็งกร้าวน้อยกว่าที่เคยหาเสียงไว้ ว่าอาจขึ้นภาษีกับจีนมากถึง 60%
ขณะเดียวกันแม้ว่าการกลับมาของ นายทรัมป์ จะสนับสนุนให้สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมในระยะสั้น แต่ขณะเดียวกันการที่นายทรัมป์ เคยได้กล่าวความประสงค์เอาไว้ว่า มีความต้องการเข้ายึดคลองปานามา-เกาะกรีนแลนด์ และอยากจะเปลี่ยนให้แคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ทองคำจึงยังคงเป็นทางเลือกในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับการถือครองในระยะยาว วายแอลจี จึงยังคงเป้าหมายทองคำที่ 2,850-3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่เป้าหมายของราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ อยู่ที่ระดับ 46,000-48,500 บาทต่อบาททองคำ (ณ อัตราแลกเปลี่ยน ที่ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์) ซึ่งหากค่าเงินบาทอ่อนค่าเหนือระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ จะทำให้ราคาทองคำแท่ง 96.5% มีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 50,000 บาท/บาททองคำ
สำหรับการเคลื่อนไหวของทองคำในปีนี้จะแกว่งตัวผันผวนขึ้นนั้น มองว่าสามารถใช้เป็นจังหวะเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น โดยสามารถใช้ 2,726-2,708 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เป็นแนวรับสำคัญ และใช้ 2,776-2,790 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เป็นแนวต้าน ส่วนทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มองกรอบการเคลื่อนไหวระยะสั้นที่โซน 43,500-44,900 บาท/บาททองคำ
อย่างไรก็ดี ในจังหวะที่ทองคำเคลื่อนไหวสลับทั้งบวกและลบ ยังเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส ที่สามารถทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด โดยล่าสุดวายแอลจีได้ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีกับ YLG Futures หรือ การลงทุนสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA (Dollar-Cost-Average) ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการออม และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย