‘บิ๊กตู่’ ลุยอีสานติดตามต้นแบบเมืองเกษตรอินทรีย์ ขอทุกฝ่ายเลิกทะเลาะ หวั่นโอกาสประเทศหายหมด ลั่น “นายกฯคนนี้ไม่เคยพูดโกหก” ย้ำ! นโยบายประชารัฐไม่เกี่ยวพรรคการเมือง ระบุขออย่างเดียวเลือกตั้งต้องสงบ

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 6 ก.พ. ที่จ.ยโสธร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ยโสธร และจ.มุกดาหาร โดยจุดแรกนายกฯ ได้ตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนเมืองเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ ณ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถียโสธร อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร โดยศูนย์นี้อยู่ระหว่างขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์อยู่ระหว่างปี 59-62 ครอบคลุมด้านพืช ปศุสัตว์ และสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ และยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเป็นต้นแบบการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศรองรับการเป็นมหานครแห่งเกษตรอินทรีย์

โอกาสนี้นายกฯ เป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้แก่ประชาชน และสักขีพยาน ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร มอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวมให้แก่ผู้แทนประชาชน พร้อมกล่าวมอบนโยบาย ตอนหนึ่งว่า ดีใจที่มาพบทุกคนด้วยตัวจริง ไม่ใช่แค่ผ่านโทรทัศน์ สำหรับจ.ยโสธร มีชื่อเดิม “ยศสุนทร” แปลว่า “ทรงไว้ซึ่งเกียรติ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม วันนี้อยากให้ประชาชนได้ฟังข้อมูลจากรัฐบาล ซึ่งเราทำตามยุทธศาสตร์ คือ การทำไปเรื่อยๆ ถึงได้มีกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงอย่าไปฟังแค่ว่าวันนี้ใครจะให้อะไรกับเรา และอย่ามองแค่ว่าสิ่งที่ทำวันนี้เราจะอยู่หรือไม่อยู่ ต้องมองอนาคตของลูกหลาน ซึ่งรัฐบาลพยายามทำหลายมาตรการเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ทั้งโครงการประชารัฐบ้านล้านหลัง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองที่มีการเอาชื่อไปใช้ แต่รัฐบาลทำเรื่องนี้มาตลอด เพื่อให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวม

“ขณะที่ประเทศไทยไม่เหมือนคนอื่น มีคนน่ารัก แต่บางส่วนก็ไม่ไว้ใจ ซึ่งผมพยายามเคลียร์เรื่องเหล่านี้ให้ได้ โดยต้องพูดกันด้วยข้อเท็จจริง อีกทั้งหลายอย่างเราต้องยอมรับ เมื่อก่อนอาจไม่มีใครมาพูดแบบนี้ ไม่มีใครมาทะเลาะกับท่าน มาพูดหวานๆ เพราะๆ พูดจาจ๊ะจ๋าไปเรื่อย ซึ่งมันไม่ได้ เราต้องพูดกันด้วยข้อเท็จจริงและพัฒนาไปด้วยกัน” นายกฯ กล่าว

เกาะติดข่าวการเมืองข่าวเลือกตั้ง แค่กดเป็นเพื่อนกับไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันทุกรัฐบาลหากให้อย่างเดียวก็จะหมดสภาพ รัฐบาลเองก็จะเจ๊ง เพราะเป็นเงินภาษีของคนทั้งประเทศ อีกทั้งมีพ.ร.บ.งบประมาณ และพ.ร.บ.การเงินการคลังอยู่ จึงอย่าฟังหากใครบอกจะให้อะไรก็ต้องถามกลับด้วยว่า เงินมาจากไหนและผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ ตนเป็นนายกฯ ของประเทศไทย จะต้องดูแลคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ต้องเห็นใจคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งวันนี้มีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนถึง 14.7 ล้านคน ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ บางพื้นที่เฉลี่ยเดือนละไม่กี่พันบาทแล้วจะอยู่กันได้อย่างไร

  • บิ๊กตู่ เผยไม่เคยพูดโกหก

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราต้องคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว และที่มาวันนี้ไม่ต้องจำสิ่งที่ตนพูดไปมาก แต่สิ่งที่พูดไปทั้งหมดต้องการเน้นย้ำให้เห็นว่าวันนี้เราต้องคิดร่วมกัน อย่าถือว่าใครนำใคร รัฐบาลมีหน้าที่เพียงกำหนดนโยบายให้ตรงความต้องการประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประชาชนต้องเรียนรู้และเดินไปด้วยกัน ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาแก้ไม่ได้ต่อการพัฒนาเหมือนหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาหล่านี้อาจอยู่ไปเป็น 100 ปีก็ได้หากไม่คิดใหม่และทำใหม่

“แม้เราไม่มีเงินก็สามารถออกแรงได้ เพื่อเดินไปด้วยกัน เพราะไม่มีอะไรได้มาโดยเขาให้เพียงอย่างเดียว เรามีศักดิ์ศรี มีสมอง มีความคิด ทำไมต้องไปรอเขาให้ ดังนั้นการพูดจาต้องทำความเข้าใจกัน อย่าให้ใครมาบิดเบือนและหลอกลวง นายกฯคนนี้ไม่เคยพูดโกหกกับพวกเรา โกหกใครไม่ได้ พูดแต่ความจริง ซึ่งหลายคนอาจชอบบ้างไม่ชอบบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครชอบทั้งหมด ใครชอบทั้งหมดก็คงไม่ใช่นายกฯ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า บ้านเมืองจะสงบหรือไม่สงบอยู่ที่ทุกคน วันนี้ประชาชนและรัฐต้องทำงานร่วมกันในการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เราจะมีพระเจ้าแผ่นดินที่สมบูรณ์ เป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบขั้นตอนทั้งหมดเหมือนกับรัชกาลที่ 9 จึงขอให้มาร่วมมือ ร่วมใจ และพูดคุยกัน อย่าไปมัวคุยแต่เรื่องความขัดแย้ง น่ารำคาญ น่าเบื่อ

ในช่วงนี้นายกฯ ได้ย้อนถามประชาชนว่า “เบื่อกันหรือไม่” พร้อมกล่าวต่อว่า เราจะทะเลาะเบาะแว้งกันอีกไม่ได้แล้ว เพราะโอกาสที่พูดมาทั้งหมดจะหายไปทั้งในและต่างประเทศ และตลาดการค้าจะเอามาจากไหนถ้าทุกคนแอนตี้เรา ดังนั้นอย่าพูดว่าอะไรก็ไม่ดีทั้งหมด เพราะการพูดจาเช่นนี้ถูกเผยแพร่ไปเร็วทั่วโลก ไม่ว่าจะเรื่องจริงหรือไม่จริง ซึ่งหากเชื่อขึ้นมาก็จะกีดกันเราในทุกเรื่อง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แต่วันนี้ไม่มีใครกีดกันไทย และทุกอย่างสูงขึ้นทุกเรื่อง ต่างประเทศก็มาพบตนตลอด ยืนยันเจตนารมณ์พร้อมร่วมมือกับเรา จึงขอให้การเลือกตั้งสงบเรียบร้อย ตนขอแค่นี้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ทุกอย่างก็ไปไม่ได้ อนาคตเสียหาย สิ่งที่ทำมา 4-5 ปี จะเสียหายทั้งหมด จึงขึ้นอยู่ที่ทุกคน

  • ไร้ป้ายหาเสียง พปชร.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ในวันเดียวกันนี้ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งที่ 2 ของนายกรัฐมนตรีภายหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งประกาศใช้ ท่ามกลางเสียงวิพากวิจารณ์ถึงความเหมาะสม เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงสงวนท่าทีทางการเมือง ยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่จ.ยโสธรในวันนี้ตลอดเส้นทางบนถนนสายหลักมายังศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ วิถียโสธร อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร มีป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก รวมถึงป้ายหาเสียงของพรรคอนาคตใหม่ติดตั้ง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีป้ายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด

สำหรับมาตรการความรักษาความปลอดภัยผู้ที่จะเข้ามาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น อยู่ในชั้นการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ประชาชนทุกคนจะต้องผ่านจุดคัดกรอง ที่มีเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย การตรวจบัตรประชาชน และติดสติ๊กเกอร์และบัตรสี ห้ามพกพาอาวุธ แม่แต่ขวดน้ำพลาสติกเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจและขอเก็บออกจากเต้นท์ต้อนรับนายกรัฐมนตรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน