ทนายมีชื่อ โผล่อีก ยื่นยุบอนาคตใหม่ ปมถือหุ้น เผยก่อนหน้า เพิ่งไปยื่นยุบเพื่อไทย!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเลย นายอาณัศ ช้างอินทร์ อาชีพทนาย ได้เข้ายืนหนังสือร้องเรียน กับพนักงานสืบสวนและไต่สวน กกต.เลย คัดค้านการเลือกตั้ง และให้ยุบพรรคเพื่อไทย ร่วมทั้งร้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และให้ยุบพรรคอนาคตใหม่
นายอาณัศ ช้างอินทร์ ได้เผยว่า ตามที่ตนได้กล่าวโทษคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ผู้สมัคร สส.เลย เขต 1 หมายเลข 4, นายสันติภาพ เชื้อบุญมี ผู้สมัคร สส.เลย เขต 3 หมายเลข 5, และนางศุกร์ไกล จันทร์สว่าง ว่า กระทำผิดกฎหมายตามมาตรา 73(5), 158, 159 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 84, 86 และตนก็ได้รับแจ้งจาก กกต.เลย ว่า บุคคลทั้ง 4 มีความผิด และทางกกต. ได้ให้บุคคลทั้ง 4 รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
ต่อมาวันที่ 24 มีนาคม ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดเลย ปรากฏว่า นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล เบอร์ 4 พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 53,289 เสียง ซึ่งนับได้ว่าชนะการเลือกตั้งดังกล่าว ตนเห็นว่าเป็นไปโดยไม่สุจริต และไม่เที่ยงธรรม เพราะถ้าหากบุคคลทั้ง 4 ที่ไม่กระทำผิดกฎหมาย
ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ก็ไม่มีโอกาสได้คะแนนมากมายจนชนะการเลือกตั้ง ทั้งนี้คณะบุคคลทั้ง4ได้อาศัยเกียรติยศชื่อเสียงของ นางศุกร์ไกล จันทร์สว่าง อันเป็นความเท็จ เป็นการหลอกลวงให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิด ตนจึงขอคัดค้านการเลือกตั้งดังกล่าว และให้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 4 ตามกฎหมายต่อไป
ส่วนอีกเรื่องกรณีของพรรคอนาคตใหม่ ตนเห็นว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98(3) บัญญัติไว้ว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้าม
มิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฯลฯ (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 151 บัญญัติไว้ว่า
ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอม ตามที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเจ้าของ และผู้ถือหุ้นในบริษัท วี ลัค มีเดีย จำกัด มีวัตถุประสงค์ของบริษัทเกี่ยวกับกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ
และมีหุ้นในบริษัทดังกล่าว 675,000 หุ้น เลขหมายของหุ้น 13500012025000 โดยลงทะเบียนผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2558 ตลอดมา จนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงได้โอนหุ้นดังกล่าวให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของตนก่อนการเลือกตั้งเพียงสองวัน
และยังได้แถลงต่อสื่อต่างๆ ว่าตนได้โอนหุ้นดังกล่าวให้กับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 การกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 ก็ตาม แต่เป็นการโอนกันเองระหว่างมารดากับบุตร การโอนกันเช่นนี้ จะนำมาใช้แก่บริษัทหรือบุคคลภายนอกไม่ได้ จนกว่าจะได้จดแจ้งการโอนทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนลงในทะเบียน ผู้ถือหุ้นแล้วเท่านั้น
ฉะนั้น การที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวอ้างว่าได้โอนหุ้นแก่กัน ตั้งแต่ เดือนมกราคม 2562 และมาจดแจ้งการโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 นั้น จึงเป็นการถางทางถอยของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อันเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะความผิดของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นความผิดสำเร็จแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562
อย่างไรก็ตาม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยเป็นกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทสื่อและลาออก เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 ก่อนตั้งพรรคอนาคตใหม่ และขณะเดียวกัน นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวอยู่ โดยถือหุ้นเป็นอันดับสองของผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว โดยมีหุ้นอยู่ 20.7 เปอร์เซ็นต์
เมื่อนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มีหุ้นในบริษัทดังกล่าวอยู่ ปรากฏว่าสื่อดังกล่าวได้โฆษณาประกาศหรือมีความเห็นสนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ตลอดมา ซึ่งมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความไม่สุจริต ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ พรรคอนาคตใหม่ ตนจึงได้ยืนหนังสือร้องเรียนเพื่อถอนชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และดำเนินคดีกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามกฎหมายต่อไป
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
