ระพีพัฒน์ ลั่น ลุงป้อม จะก้าวข้ามขัดแย้ง ย้ำพลังประชารัฐ พร้อมพิสูจน์ทุกข้อกล่าวหา ขอเป็นที่พึ่งให้ประชาชน ลุยนโยบายบริหารจัดการน้ำ ดันเกษตรกรรมล้ำหน้า
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 พ.ค. 2566 ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ มติชนxเดลินิวส์ จัดเวทีดีเบต “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” โดยยกทัพพรรคการเมืองชั้นนำครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งขุนพลเลือดใหม่ (Young blood) ขุนศึกตัวตึง-ตัวเก๋า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชันนโยบาย เพื่อนับถอยหลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
เข้าสู่รอบที่ 1 เวที “Young blood วัดอนาคต” นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า แม้ตนจะอยู่พรรคพลังประชารัฐ แต่เชื่อว่าเป็นพรรคที่เหมาะสมที่สุดในการกลับเข้ามาเป็นรัฐบาล เพราะทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงและมีพลวัต ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมีพลวัต มีการเคลื่อนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง
นายระพีพัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐโดนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่พลังประชารัฐกำลังเปลี่ยนแปลง จากการโดนกล่าวหาว่าเป็นพรรคเผด็จการทหาร รอบนี้เราผ่านการเมืองหนึ่งรอบ ถูกเปลี่ยนใหม่กลายเป็นทหารจำแลง แต่พรรคพลังประชารัฐกำลังเปลี่ยนแปลงเดินหน้าสู่การพิสูจน์ทุกข้อกล่าวหาว่า พลังประชารัฐ คือพรรคที่สามารถก้าวไปเป็นพรรคที่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้แน่นอน
นายระพีพัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายของพลังประชารัฐที่อยากผลักดัน ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค หน้าที่รับผิดชอบหลักในรัฐบาล คือ ที่ดินและน้ำ ทุกคนพูดกันว่าการบริหารจัดการน้ำ มีแค่กันกรุงเทพฯ ไม่ให้น้ำท่วม แต่การบริหารจัดการที่ดี และจะนำมาซึ่งผลประโยชน์มากกว่ากันน้ำท่วมกรุงเทพฯ นั่นคือการเพิ่มศักยภาพในการทำการเกษตรให้กับประเทศไทย คือเกษตรกรรมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เป็นเกษตรกรรมก้าวหน้าได้ แต่สิ่งที่จะขาดไม่ได้นั่นคือน้ำ
นายระพีพัฒน์ กล่าวว่า ดังนั้น ลุงป้อมจึงมองเห็นว่าจะต้องบริหารจัดการน้ำ ซึ่งไม่ใช่แค่น้ำท่วม แต่ต้องเพื่อการเกษตรด้วย จึงพูดว่ามีเราไม่มีแล้ง และต้องกระจายน้ำและผันน้ำ ไม่ใช่จากเหนือลงใต้ แต่ต้องไปเหนือ ภาคตะวันออก และภาคอีสานด้วย เพราะต้องการให้ภาคอีสาน ซึ่งมีพื้นที่สูงสุดทำเกษตรได้เต็มปี ถ้ามีน้ำทั้งปี สามารถปฏิรูปที่ดิน ทำให้น้ำที่เราผันไปเป็นพื้นที่การเกษตรและท่องเที่ยว โลจิสติกส์ ป้องกันน้ำท่วมได้ด้วย และประเทศไทยจะมีเกษตรกรรมที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกได้
“คำถามที่ผมโดนเยอะเลย ทำไมต้องลุงป้อม เดินก็ไม่ค่อยไหว วันนี้ลุงป้อมจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ลุงป้อมคือสิ่งที่ดีที่สุดของเรา” นายระพีพัฒน์ กล่าว
