วันที่ 27 เมย. ที่ศูนย์การค้าสยามสแควร์ วัน จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา นางเอกสาวชื่อดัง มาร่วมงานเปิดตัวแคมเปญ “อีฟแอนด์บอยไทยแลนด์” จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องเป็น 1 ใน 59 ดารา ที่รับรีวิวสินค้าในเครือเมจิกสกิน
โดย จุ๋ย เผยว่า “เรื่องนี้จริงๆ ต้องขอโทษทุกคนอย่างมาก ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแน่นอน รู้สึกเสียใจและตกใจด้วย แต่ตนเป็นคนแรกที่รับรู้เรื่องนี้มาเมื่อประมาณสองเดือนกว่าแล้ว ตอนนั้นก็รีบหาข้อมูลจากคนที่มีความรู้ รวมถึงข้อมูลจากเพจที่เขาแจ้งมา จากนั้นก็ติดต่อไปจนได้ข้อมูลความจริงกลับมา ตอนนั้นตนได้โพสต์เตือนไปทางเพจส่วนตัวของตัวเองว่า ตนได้รับแจ้งมาว่าสินค้านี้ไม่ปลอดภัย ดังนั้นไม่สนับสนุนหรืออะไรทั้งสิ้น ให้ดูดีๆ ศึกษาก่อน แต่ ณ ตอนนั้นตนพูดได้เท่าที่จะพูดได้ ก่อนที่เรื่องจะมาถึงตอนนี้มันมีกระบวนการอะไรมากมาย ซึ่งเรื่องมันใหญ่กว่าที่รับรู้ ณ ตอนนั้นมากๆ
“ส่วนตัวได้พูดคุยกับพุฒ-พุฒิชัย ด้วยเช่นกัน รีบเช็กทุกอย่างและดำเนินการด้วยตัวเอง ไม่ได้ปล่อยให้ผู้จัดการส่วนตัวดำเนินการให้ อยากจัดการด้วยตัวเองเพื่อที่จะสอบถาม ฉะนั้นพอมีข่าวเกิดขึ้นมาในตอนนี้จึงตกใจมากๆ ตอนนั้นคิดว่าถึงแม้จะมีคนเสียหายแค่ 1-2 คน จุ๋ยก็ไม่พึงประสงค์ที่จะสนับสนุนอะไรกับแบรนด์นี้เลย อีกอย่างจุ๋ยเป็นคนท้ายๆ ที่รีวิวด้วยซ้ำ น่าจะก่อนมีข่าวประมาณครึ่งเดือน แล้วมันถึงดีลให้ลบรีวิวพอดี”


คิดว่าตัวเองพลาดไปไหม
“จริงๆ ตนมีการตรวจสอบก่อนรับรีวิวสินค้า แต่มันก็เกิดความผิดพลาดจนได้ เพราะการตรวจสอบของตนยังไม่เพียงพอ หลังจากนี้ทำให้คิดว่าตนจะเชื่อถือระบบทุกอย่างที่เคยเข้าใจไม่ได้ เนื่องจากสิ่งที่เห็นไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณาข้างรถเมล์ ป้ายบิลล์บอร์ดระหว่างทางกลับบ้าน ซึ่งการจะขึ้นโฆษณาได้ตามความรู้ของตนคือจะต้องมีการขอใบอนุญาตโฆษราอาหาร หมายความว่าทุกขั้นตอนมีระเบียบของเขาอยู่ เท่ากับว่าจะมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ดังนั้นจะเห็นว่าแบรนด์ต่างๆ ที่ขึ้นตามบิลล์บอร์ดหรือรถเมล์ เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือทั้งนั้น พอเกิดกรณีนี้ขึ้นมามันเกินความคาดหมายของตนจริงๆ และรู้สึกไม่สบายใจมากๆ แต่สิ่งที่คิดคือทำยังไงจะแก้ไขในตอนนั้นจึงเลือกจะเข้าไปสอบถามคนที่มีข้อมูล ตนได้เริ่มทำตั้งแต่ตอนนั้นซึ่งยังไม่มีกระแสอะไรขึ้นมาเลย เท่าที่คุยกับพุฒก็คืออยากนำเงินที่เป็นค่าจ้างรับรีวิวของแบรนด์นั้นเอาไปบริจาคต่อ ซึ่งจุ๋ยได้ทำแล้วก่อนที่จะเป็นกระแส โดยเอาไปบริจาคเพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์จะได้เป็นประโยชน์ทางสาธารณะและคนอื่นต่อไป”
มีใครทักท้วงเรามาเหรอ
“เพจทางสังคมเพจหนึ่งที่เขาดูแลรับแจ้งเรื่องนี้จากประชาชน คือเขาไม่ได้มาแจ้งจุ๋ยแต่เราเห็นเลยติดต่อเขาไป พอได้ข้อมูลเลยแก้ไข ถามว่าพอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาคิดยังไงที่คนมองว่าดาราหลอกประชาชน ส่วนตัวได้กินจริงๆ แต่เขาให้มาแค่ชุดเดียว ดังนั้นจุ๋ยจะไม่ได้กินต่อเนื่อง มันน่าแปลกมากๆ ที่เราคีย์ข้อมูลไปแล้วขึ้นว่าได้รับอนุญาต สำหรับเรื่องนี้กระทบกับธุรกิจของเรามั้ย พุฒทำเสื้อผ้าไม่น่ากระทบอะไร ส่วนตนเป็นสกินแคร์ เลยคุยกับพุฒและหาข้อแก้ไขร่วมกัน ตอนที่รู้ข่าวตนก็บอกเพื่อนคนอื่น เพราะทางเพจเขาถามว่าตนสามารถกระจายข่าวได้มั้ย เลยให้ผู้จัดการส่งไปถึงผู้จัดการดาราหลายๆ ท่านว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”


เตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปพบเจ้าหน้าที่หรือยัง
“ตนยินดีให้ข้อมูลเต็มที่ มาถึงจุดนี้รายละเอียดต่างๆ ขอเข้าไปให้กับตำรวจ แต่ที่อยากจะบอกคือ ตอนนี้เราเชื่ออะไรไม่ได้เลย ต้องยึดตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ระบบต่างๆ ที่เคยเชื่อว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์มันไม่ใช่ ทุกคนต้องร่วมมือกัน จุ๋ยกับพุฒเราคิดว่าเมื่อผิดพลาดแล้วต้องช่วยกันแก้ไขให้ถูกต้อง สิ่งที่อยากให้ช่วยกันคือ ช่วยกันแก้ไขที่ต้นเหตุด้วย ไม่ใช่ที่ปลายเหตุ ทุกส่วนต้องพร้อมใจตระหนักกัน จะมาโทษฝ่ายใดฝ่ายเดียวไม่ได้เพราะหลายๆ ส่วนเกี่ยวเนื่องกันหมด พอตนรู้ก็ตกใจเป็นห่วงพี่น้องประชาชนด้วย แต่ตนก็ถือเป็นผู้เสียหาย คือเสียหายทางชื่อเสียง”
หลังจากนี้จะเลือกรับงานรีวิวอย่างไร
“คงต้องระวังและสอบถามเยอะขึ้น ทางลูกค้าก็คงต้องเข้าใจว่าพวกเราที่เป็นดาราต้องดูกันเยอะขึ้น ต้องมีทั้งเอกสาร ช่องทางการขาย จริงๆ อันนี้เขาก็มีเอกสารนะ แต่เป็นแบบปลอมในปลอม สวมในสวม มันไม่สามารถรู้ได้จริงๆ บรรทัดฐานคงเปลี่ยนไปเลย ตอนนี้มีคนมาติดต่อถ้าเป็นแนวอาหารเสริมจะไม่รับเลย ถ้าเป็นของใช้ก็ดูก่อน ในเรื่องความปลอดภัยและรายละเอียดทั้งหมด ตอนนี้ทุกคนคงขยาดเรื่องอาหารเสริม อยากให้ทุกคนร่วมมือกัน เพื่อความปลอดภัยของทุกคน มีข่าวนี้ออกมาก็สร้างความสั่นสะเทือน ให้คนที่เขาดูแลตัวเองด้วยวิธีการกินอาหารเสริมพวกนี้อยู่เหมือนกันค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน