วันที่ 29 เม.ย. ที่ ลานกิจกรรมโซน B หน้าโรงภาพยนตร์เอส เอฟ ซีเนม่า เดอะมอลล์ บางกะปิ “เบิ้ล ปทุมราช” นักร้องหนุ่มค่ายอาร์สยาม ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานรอบสื่อมวลชนภาพยนตร์เรื่อง “ฮักแพง” ถึงเรื่องที่ได้โพสต์ภาพในอินสตาแกรม โดยเป็นแช็ตส่วนตัว ระหว่างตนเองและดาราหนุ่ม เก้า-จิรายุ ละอองมณี ซึ่งนักร้องหนุ่มได้ส่งรูปที่ ‘เก้า’ ถ่ายกับนักร้องหนุ่ม “แบมแบม GOT7” แล้วถามว่า “เหลืองหรือแดงวะ” โดย ‘เก้า’ ตอบว่า “เหลือง 55555555” ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
โดย ‘เบิ้ล’ กล่าวว่า “ผมเองก็ต้องขอโทษน้องด้วย จริงๆ พอเกิดเรื่องก็ได้มาค้นดูประวัติและความเป็นมาของน้องก็รู้สึกชื่นชมมากกว่า ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นจะทำให้ผมโดนว่า แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส ถามว่าวันนั้นผมเลือกที่จะเงียบได้ไหม เงียบได้ แต่ยังมีคนอยากให้เราออกมาพูดบ้าง เลยคิดว่าควรจะออกมาพูดดีแล้ว ซึ่งผมก็คิดว่าผมผิดเองที่ใช้คำตัดต่อกับเก้า คำมันไม่สมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้ความหมายในการอ่านเหมือนไปพาดพิงน้องรึเปล่า แต่ผมขอสารภาพว่าตอนนั้นยังไม่รู้จักน้องจริงๆ เราคิดว่าแฟนคลับไปถ่ายรูปกับเก้ารึเปล่า เลยทักทายหยอกเก้าว่า ได้ใบเหลืองหรือใบแดง เรื่องราวมันเกิดจากทหารนี่แหละ แต่ใบเหลืองหรือใบแดงมาจากฟุตบอล เก้าบอกว่าได้ใบเหลือง ผมก็บอกว่า อย่าเล่นตุกติกนะ แล้วก็เอาไปลงไอจีว่าถ้าเล่นตุกติกจะได้ใบเหลือง พอโพสต์ไปแล้วผมก็นอนหลับ ซักพักเก้าโทร.ตามว่า ลบได้ไหม กลัวถูกโยงเรื่องการเมืองรึเปล่า เราก็ตกใจไปดูไอจี แต่ในไอจีไม่มีเรื่องการเมืองเลย แต่กลับโยงถึงน้องเขา ซึ่งกลัวทำให้น้องไม่สบายใจ แฟนคลับเข้าใจผิด ผมก็ย้อนดูว่าเราไปเอาบุคคลที่3 เข้ามาอยู่ในโพสต์รูปของผม ถ้าผมเป็นแฟนคลับแบมแบมก็คงโกรธเหมือนกัน”
“แต่วันนี้จะมาพูดในฐานะศิลปินเหมือนกัน ผมอาจจะไม่ได้โด่งดังไปต่างประเทศ แต่ก็เป็นคนนึงที่ให้กำลังใจแบมแบม อยากให้รับรู้ว่าผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำอะไรแบบนั้น ไม่ได้พูดแก้ตัวว่าผมไร้เดียงสานะ ผมก็พอจะรู้ว่าควรอยู่วงการนี้ยังไง ใช้ชีวิตแบบไหน ถามว่าอยากเกาะกระแส สร้างดราม่ามั้ย ไม่จำเป็นเลย ผมอยู่วงการนี้ก็แต่งเพลงเอง ทำเองทุกอย่าง ถ้าเพลงดังหรือไม่ดังก็อยู่ที่บุญวาสนาของผมด้วย ไม่ได้ต้องเป็นกระแสตลอดเวลา ตอนนี้ผมเป็นทหาร แค่ออกมารับงานศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็ดีใจมากๆแล้ว”
นอยด์มากไหมกับเรื่องนี้?
“ผมไม่ได้นอยด์แฟนคลับแบมแบม ที่มาว่าผม ทำไมพาดพิงหรือว่าแบมแบม ผมเข้าใจความรู้สึกเขา แต่ผมนอยด์บางคำที่ด่าพ่อแม่ผมมากกว่าว่าลูกอีช่างติ และดูถูกเวทีที่ผมอยู่ว่าเวทีต่ำ เขาระดับโลก ซึ่งเรารู้ว่าแบมแบมเองไม่ได้คิดแบบนั้น เขาก็คงต้องสู้เหมือนกันกว่าจะไปสู่ got7 ได้ ทุกเวทีสำคัญกับน้องร้องทุกคน ไม่มีเวทีไหนต่ำ ผมสามารถมองผ่านข้อความนั้นได้แต่ บางทีมันแรงเกินไป ผมเป็นศิลปินก็เข้าใจว่าต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผมคิดว่าผมไม่มีความอดทนพอที่จะอ่านแล้วมองข้ามไปได้ เพราะว่าพ่อแม่ของผม บุพการีของผม เวทีที่เราสู้มาตั้งแต่ค่าตัวน้อยๆ จนสูงมากขึ้นถึงไม่สูงมากก็เลี้ยงดูครอบครัวได้ ไม่อยากให้มองเวทีไหนต่ำเวทีไหนสูงครับ”
เรื่องราวที่เกิดขึ้นมีผลกระทบอะไรส่วนตัวบ้างไหม?
“จริงๆ ผมคิดว่าไม่มีผลกระทบเลยครับ ถ้าผมออกมาพูด โมโหแล้วก็ออกมาด่าแฟนคลับว่ามึงมาด่ากูทำไมวะ กูไม่ได้ว่าคนของมึง ผมเชื่อว่าผมผิดแน่นอนแล้วก็มีผลกระทบ แต่ที่ผมออกมาผมพูดในลักษณะของความเป็นจริง ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องแก้ตัวยังไง ผมมีแต่อยากออกมาแก้ไขแล้วให้ทุกคนรักกันมากกว่า ทั้ง Got7 BFc หรือว่าเก้า จิรายุ ให้ทุกคนเป็นหนึ่งใจเดียวกันดีกว่า ในอนาคตผมอาจได้เจอแบมแบมขอเขาถ่ายรูปด้วยซ้ำ”
ไดเร็กต์ไอจีไปขอโทษหรือชี้แจงกับแบมแบมไหม?
“ผมไม่กล้าทักไปครับ ผมคิดว่าน้องเองก็ไม่อยากมายุ่งด้วย น้องเองก็คงไม่รับรู้ด้วยซ้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะผม แล้วก็แฟนคลับแบมแบมมาเห็นโพสต์ของผมมากกว่า ผมเชื่อว่าแบมแบมคงไม่มีเวลาที่จะมาอะไรแบบนี้
รู้จัก “แบมแบม” ไหม?
“ผมไม่รู้จักครับ อันนี้ผมขอโทษจริงๆ
คนสงสัยคือถ้าจะคุยกับเก้าแล้วทำไมถึงแคปรูป 2 คนมาลง?
“ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ผมไม่ได้อวดอ้างว่าผมเป็นเพื่อนเก้าจิรายุนะ คือเรากวนกัน เราเตะบอลด้วยกันบ่อย แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับฟุตบอลที่ผมพูดหยอก เลยอยากลงเฉยๆ อาจจะเป็นเพราะเราคิดง่ายเกินไปกับโซเชียลฯ ซึ่งถามว่ามีคนมาบอกว่า นัดกับเก้าหรือเปล่า ทำไมนัดแล้วเวลาแก้ตัวไม่ตรงกัน ต้องแก้ตัวตรงกันยังไง ผมก็ไม่เคยนัดอะไรกับเก้า แต่ผมก็ผิดนะ อันนี้ผมไม่ได้แก้ตัว”
คิดว่าต้องระมัดระวังมากขึ้นไหม?
“ต้องระมัดระวังจริงๆ นี่เป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้เลยว่าต่อไปนี้ไม่ใช่ว่าเรามีโซเชียลฯ ในมือ มีคนติดตามเยอะเนี่ยไม่ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้ ที่เก้าได้พูดออกไปนั่นแหละครับว่ามันสามารถนำเราไปสู่ทางที่ดีหรือนำทางเราไปสู่ทางที่ไม่ดีเสียหายกับตัวเองและคนรอบข้างก็ได้ อันนี้ก็อยากจะออกมาพูดรวมๆ ขอโทษและขอให้ทุกคนรับรู้ว่าผมไม่ได้มีเจตนาอะไรแบบนั้นถ้าอันไหนที่แก้ไขได้ และมีโอกาสได้เจอน้องแบมแบมก็ยินดีที่จะเป็นแฟนคลับน้องอีกคนหนึ่ง แล้วก็หวังว่าถ้าวันหนึ่งมีโอกาสพัฒนาตัวเองเข้าสู่ศิลปินระดับประเทศได้เจอน้องสักครั้งหนึ่งในชีวิตเราก็อยากให้น้องได้รู้ว่าเราไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น และดีใจที่ได้เกิดมาตรงนี้แหละทำงานในวงการบันเทิงแบบน้อง”
