วันที่ 1 มิ.ย. ที่ เรือนจำพิเศษมีนบุรี แคนดี้ รากแก่น นักร้องสาวและผู้จัดฯ ทายาทหมอลำชื่อดัง บานเย็น รากแก่น มาร่วมกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบความสุขให้กับผู้ต้องขัง ในเรือนจำพิเศษเนื่องในโอกาสฉลองวันคล้ายวันเกิดคลื่นลูกทุ่งมหานคร FM 95 ครบรอบ 14 ปี จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่โดนด่า หลังโพสต์เฟซบุ๊ค เผยปม อาม ชุติมา ผู้แต่งเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ประกาศแตกหัก ค่ายไหทองคำ และสงสาร ลำไย ไหทองคำ ที่โดนโจมตีหนักทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

แคนดี้ เผยว่า “มีคนมาถามเรื่องนี้เยอะ คนก็มองว่าเราสนิททั้งคู่ ทั้งน้องอาม ลำไย และอ.ประจักษ์ชัย เพราะเราเริ่มต้นจากการจ้างงาน ทำเวทีคอนเสิร์ตลีโอซุปตาร์อินดี้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ดัง เราเห็นการเริ่มต้นของทีมไหทองคำ มีอาม มีลำไย มีเนสกาแฟ ที่เล่นด้วยกันบนเวทีของเรา เป็นเวทีแรกที่เปิดให้กับซุปตาร์อินดี้จริงๆ เห็นพัฒนาการของเขามาตั้งแต่เพลงยังไม่กี่ล้านวิวมาจนถึงร้อยล้านวิว รู้สึกใจหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่รู้ว่าลึกๆข้างในเขาเกิดอะไรขึ้น เราก็ได้ยินเท่าที่ทุกคนได้ยินพร้อมกันนี่แหละว่าน้องอามอึดอัดใจยังไง นั่นคือสิ่งที่เขาพูดและเราก็รับฟัง เราต้องรับฟังทุกฝ่าย แคนดี้ไม่ได้โอนเอนไปทางฝ่ายไหนเลย ไม่ได้เป็นทีมใครค่ะ เราให้กำลังใจและให้คำแนะนำทุกคน เราไม่ได้เป็นนักกฎหมาย ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขา ถ้าเราออกตัวแรงต่อให้เราเป็นกลางแค่ไหนเราก็โดนด่า เหมือนที่แคนดี้โพสต์ให้กำลังใจลำไย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างน้องอาม ชุติมา กับทางค่ายไหทองคำ ไม่ได้เกี่ยวกับลำไย ไหทองคำ แต่น้องลำไยโดนด่าเยอะ โดนโจมตีเยอะ เราก็เลยออกตัวเบาๆว่าอย่าไปด่าน้องเลย น้องไม่เกี่ยว ทีมอามก็เข้ามาด่าเรา ทีมอาจารย์ก็เข้ามาด่าเรา เรื่องนี้ถ้าเป็นไปได้ไม่ยุ่งได้ก็ดีจะได้ไม่มีใครมาด่าเรา แต่พอมีคนมาถาม เราก็ตอบในฐานะที่เราเป็นคนตรงๆ ก็ต้องเตรียมรับมือในการโดนด่า เรื่องนี้เท่าที่ฟังมันเป็นเรื่องของความอึดอัดใจของฝ่ายหนึ่งกับความไม่เข้าใจของอีกฝ่ายที่ไม่คุยกัน กลายเป็นว่าต่างคนต่างมีโอกาสพูดออกสื่อใครสื่อมัน กลุ่มใครกลุ่มมันด่ากันไปแบบนี้ไม่มีวันจบ สิ่งที่ทำได้คือเราหันหน้าคุยกันสิ ให้นึกถึงวันแรกที่วิ่งงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน รักน้องอามเหมือนลูก”

อามได้มาปรึกษาเรามั้ย
“มีพูดคุยกันบ้าง ก็ถามในเรื่องสัญญา เราเคยเป็นศิลปินมีสัญญามาก่อน ก็พูดตามตรงว่าเราไม่เห็นเนื้อสัญญา ถ้ามีสัญญาก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา เว้นแต่ว่าเราสามารถเปิดใจพูดคุยอลุ่มอล่วยได้ ทางไหทองคำถ้าเห็นใจคนทำงานที่ไม่มีใจแล้วโอกาสในการคืนสัญญามันก็มี และโอกาสที่จะถอยกันคนละก้าวและหันหน้ามาทำงานร่วมกันอีกก็มีแต่มีเงื่อนไขให้ทำงานด้วยกันได้มันก็มี ถ้าอามบอกทำงานไม่ได้แล้วก็ต้องมาคุย ส่วนอาจารย์ก็ต้องเปิดใจอย่าใช้สัญญามาผูกมัด”

หลังโพสต์ไปโดนด่าเละ
“โดนด่าเละเทะ ถ้าเป็นฝ่ายอามฟังแคนดี้ให้สัมภาษณ์ก็จะหาว่าเราเข้าข้างอาจารย์ พอเป็นฝ่ายอาจารย์ก็หาว่าแคนดี้เข้าข้างอาม คุณไม่มองภาพรวมว่าแคนดี้เป็นกลางมากๆ แค่พูดให้ฟังว่ามีทางเดียวที่จะดีกันได้ก็ต้องหันมาคุยกันเท่านั้นเอง เราพูดในฐานะที่อยู่ในวงจรชีวิตของทุกคน รักอาม ชุติมา เหมือนลูก ไม่งั้นเราไม่เลือกเขามาเป็นศิลปินซุปตาร์อินดี้ 2 ปีซ้อน เราเห็นความสามารถของเขา เราเคารพอาจารย์ ทีมไหทองคำที่ทำงานร่วมกันมา เราไม่ว่าใคร ไม่เข้าข้างใคร เข้าข้างความถูกต้อง”

เห็นบอกอยากจ้างอาม แต่จ้างไม่ได้
“เป็นเรื่องของกฎหมาย เราอยู่ในวงการจะรู้ว่าถ้าศิลปินติดสัญญาอยู่ เขาจะต้องรับงานผ่านทางค่ายเท่านั้น ถ้าสมมติเราอยากจะจ้างงานน้องอาม ชุติมา แล้วไปจ้างเขาโดยตรงเลย แล้วถ้าทางค่ายมาบอกว่าเราผิดกฎล่ะ เราคนจัดงานล้มนะคะ งานเราก็จัดต่อไม่ได้ ถ้าอามยังมีสัญญากับค่ายก็รับงานไม่ได้ สงสารน้องมาก เพราะทุกครั้งจะติดต่อผ่านค่ายเพราะเราทำงานเป็นระบบ แล้วครั้งนี้เราจ้างน้องไม่ได้ ถ้าไปจ้างน้องโดยตรงแล้วตามกฎหมายเขามีสิทธิ์มาฟ้องร้องเราได้ มาจับในงานได้ เราก็ต้องเซฟตัวเองด้วยในฐานะผู้จัด แต่ว่าในความรักเราเป็นห่วงอามอยากช่วยเขา”

สนิทกับทุกฝ่าย มองว่ามีทางออกในเรื่องนี้อย่างไร
“แคนดี้ไม่ได้ชี้นำนะ เพราะเราไม่มีสิทธิ์อะไรกับเขาเลย แต่สิ่งที่พูดได้ว่าถ้าสมมติเป็นแคนดี้ ถ้าสมมุติแคนดี้เป็นค่ายเพลง แล้วมีนักร้องในค่ายของเราทำงานแล้วไม่มีความสุขและเขามีความรู้สึกว่าโดนเราเอาเปรียบ แคนดี้จะเปิดใจคุย ถ้าแคนดี้เป็นเจ้าของค่ายเราจะไม่ทำร้ายเด็ก ถ้าเราเริ่มต้นมาด้วยกันเราจะไม่ทำร้ายเขา แต่ถ้าแคนดี้เป็นศิลปินแล้วอยู่ในค่ายที่ไม่ได้ตามสัญญา ก็จะบอกว่าไม่สบายใจในการทำงานแล้ว งานบันเทิงมันต้องมีใจให้ เราจะไปเปิดใจคุยกับเขาตรงๆและขอคืนสัญญา อันนี้คือพูดในมุมของแคนดี้ การจะคืนสัญญามันจะทำอะไรได้บ้าง ทั้งสองฝ่ายหันหน้ามาคุยแล้วหาจุดลงตัว ถ้าสาดกันไปกันมาเรื่องยาว กลายเป็นเรื่องสนุกของคนที่เป็นแฟนคลับที่จ้องจะทำลายอีกฝ่าย ตอนนี้แคนดี้โดนยำเละ หลายคนถามว่าเราเป็นใครทำไมถึงโพสต์แบบนั้น ตอนที่โพสต์เราก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องมันจะโหดร้ายขนาดนี้ เรารู้แค่ว่า เรารักอาม รักลำไย รักไหทองคำ ไม่อยากให้มีการทะเลาะกัน ก็เลยโพสต์ในฐานะคนกลาง คนจัดงาน ถ้าอ่านโพสต์ของแคนดี้ดีๆ หนึ่งคือเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลำไย เพราะเป็นเรื่องระหว่างอามกับไหทองคำ ไม่ต้องไปด่าลำไยหรอก วันๆหนึ่งค่ายสั่งให้ทำอะไรก็ทำ ไม่ได้รับงานเอง สองคือห่วงอาม เราพูดในฐานะคนจัดงาน เราไม่กล้าจ้างอาม เพราะเรื่องยังไม่จบ อามจะเสียโอกาสในการทำงาน ให้ใจเย็นลองคุยดู หรืออาจจะคุยแล้วไม่ได้ผลเราก็ไม่รู้ แต่เราพูดในฐานะผู้จัดงาน ขอออกตัวว่าไม่กล้าจ้าง เพราะเรื่องกฎหมายยังไม่จบ สามห่วงไหทองคำ มันกลายเป็นเรื่องสร้างความแตกแยกในค่าย คนมองว่าลำไยกับอามตีกัน ซึ่งก็เป็นเด็กในค่ายคุณ ไม่ทำให้เรื่องนี้จบสักทีมันจะตีกันจริงๆ เป็นเรื่องไหแตกจริงๆ ถ้าเรื่องนี้หาจุดจบได้ อามยอมมาคุยและเดินงานกันต่อไปตั้งเงื่อนไขทำสัญญาใหม่ เราก็ยังร่วมงานกันได้ต่อ ถ้าอาจารย์เห็นแก่เด็กคืนสัญญาให้ น้องก็มาร่วมงานกับแคนดี้ได้ จ้างงานได้ ไม่ใช่แค่แคนดี้ที่ต้องรอให้เรื่องนี้จบ ถึงจะเดินงานต่อได้ ยังมีผู้จัดหลายท่าน เราก็รอไม่ได้ ถ้ามันถึงเวลาแล้วยังไม่เคลียร์ก็ต้องหาศิลปินคนอื่น มันต้องวางคิวแล้ว มีหลายคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้ แต่พอเราพูดแล้วคนให้ความสนใจ เข้ามาถามว่าเกี่ยวอะไรกับแคนดี้ ไม่เกี่ยว ”

“ถ้ามาด่ากันก็ไม่ชินนะ อยากให้ทุกคนอ่านแล้วทำใจให้เป็นกลาง ใจแคนดี้กลางมาก ตอนนี้แคนดี้นกหลายหัวมาก แคนดี้คุยกับทุกคน แต่ไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน เขาถามอะไรมาในฐานะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการเราก็ตอบเท่าที่ความถูกต้องมันมา เราไม่ได้ไปยุแหย่ให้มีการแตกแยก จริงๆมันเป็นเรื่องในบ้านพ่อลูกไม่เข้าใจกัน ถ้ายังมีความผูกพันกันอยู่คุยกันก็จบ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน