‘เอสเธอร์’โต้เลือกข้าง‘ยิปซี’ ร่วมงาน‘พิม’ได้-โล่งกาลเวลาพิสูจน์
มาร่วมเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้ง Ariana Grande ที่มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ สยามดิสคัฟเวอรี่ สาว ‘เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา’ เปิดใจถึงเรื่องไปคอมเมนต์ให้กำลังใจ ‘ยิปซี–คีรติ’ หลังมีข่าวเลิกรากับ ‘ฌอห์ณ จินดาโชติ’ อดีตคนเคยสนิท ซึ่ง ‘ฌอห์ณ’ ก็มีข่าวกับนางเอกสาว ‘พิม–พิมประภา’ ที่เล่นละครด้วยกัน โดย ‘เอสเธอร์’ แจงว่า
“ไม่ได้ให้กำลังใจค่ะ คอมเมนต์นั้นเราคอมเมนต์ว่าน่ารักค่ะ ใต้อินสตาแกรมของพี่ยิปซี แต่อันนั้นไม่ใช่คอมเมนต์ล่าสุดด้วย ก่อนหน้านั้นก็มีค่ะ คนอาจจะพอโยงไปก็เป็นไปได้ค่ะ แต่รูปนั้นเราเม้นต์เพราะน่ารักจริงๆ ค่ะ”
กับยิปซีที่ผ่านมา เราสนิทกันขนาดไหน “เคยร่วมงานค่ะ ครั้งนึงตอนเรื่อง เล่ห์รตี และเรื่อง เพื่อเธอ และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอค่ะ รู้จักกัน ณ การทำงานค่ะ แต่ถ้าไป แฮงก์เอาต์หรือไปกินข้าว ก็จะไม่ค่อยได้ไป”
คนจับโยงกับเรื่องฌอห์ณ–ยิปซี “อย่าโยงเลยค่ะ มันนาน มากๆ แล้ว เราก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วยแล้ว”
คนมองจังหวะพอดีเพราะก่อนหน้านี้ดูเอสกับยิปซีห่างๆ กันไป “ที่ห่างๆ อาจเพราะเห็นว่าไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันและไม่ได้ร่วมงานกัน อาจเพราะมีข่าวพอดี ซึ่งจริงๆ เราก็กดไลก์ตามปกติ แต่พอมีข่าวเลยเป็น ที่สังเกตมากกว่าปกติ เลยเอามาโยงได้”
พอคนเข้ามาบอกว่าเอสเธอร์เลือกข้าง เราตกใจไหม “อย่างที่บอกเรื่องมันนาน มากแล้ว เราไม่เกี่ยวแล้ว เรื่องมันประจวบเหมาะพอดี”
พอรู้ว่าจะต้องมาร่วมงานกันกับพิม (พิมประภา ตั้งประภาพร) ในช่วงที่มีข่าว เรากังวลไหม “ไม่กังวลค่ะ เพราะในข่าวนี้ก็ไม่มีเรา อย่าเอาเราเข้าไปโยงเลย มันนานมากแล้วที่เคยมีปัญหา แต่ตอนนี้เราก็ทำงานปกติ และเราสามารถร่วมงานได้กับทุกคนค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
กับยิปซีไม่ได้คุยกันเรื่องข่าว “ไม่มีเลย เพราะอย่างที่บอกมันไม่ใช่เรื่องของเรา จะไปคุยมันเสียมารยาท และเราก็มีแค่อ่านข่าวตามโซเชี่ยล เพราะทุกวันนี้โลกมันกลม เลื่อนไปที่ไหนก็เจอหมด”
กับฌอห์ณเคยพูดคุยไหม “ไม่ได้คุยเลยค่ะ ไม่ได้ติดต่อเลยค่ะ”
หลังจากมีข่าวฌอห์ณกับยิปซี หลายคนก็บอกว่าดูเราผิดไปจากแต่ก่อนที่เคยมองเราไม่ดี “(หัวเราะ) เราอยากจะบอกว่า ความรู้สึกตอนนี้โล่งมาก ตอนนั้นโดนมรสุมหนักมาก เราเข้าใจความรู้สึกที่คนอื่นไม่สามารถอยู่ในจุดที่เข้าใจเรา เป็นคนเสพข่าวแต่ไม่ได้เสพสองฝั่ง คือเรื่องมันก็นานมากแล้ว แค่อยากบอกว่าเราคิดถูกแล้วที่ยึดตามสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เห็นผลในเร็วๆ นี้ แต่กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่จำเป็นต้องให้คนทั้งโลกเข้าใจแต่เรายึดถือในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง ทำในสิ่งที่ถูกต้องก็โอเคแล้ว เราได้บทเรียนอะไรจากเหตุการณ์ครั้งนี้เยอะมากจริงๆ และทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นค่ะ”
เรื่องครั้งนี้ทำให้คนเห็นเราอีกมุมมากขึ้นไหม “หนูว่ามันเปิดหลายมุมมองมาก แต่ไม่อยากให้ตัดสินว่าฝั่งนี้ถูก ฝั่งนี้ผิดอะไร เพราะเรื่องนานมากแล้ว เราแค่รู้สึกว่าพอเวลาย้อนกลับไป บางอ้อถึงว่าตอนนั้นอะไรอย่างนี้ รู้สึกดีใจที่มีคนเข้าใจเรามากขึ้น ไม่ได้มองเราผิดไป มองเราน่าเกลียด มองเราไม่ดีจากข่าวอย่างเดียว”
อยากบอกอะไรกับคนที่เคยมองเราไม่ดี “ขอบคุณค่ะ หนูได้บทเรียนและรู้สึกว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกันเยอะขึ้น มีสติการใช้ชีวิตมากขึ้น”