หนังเด่น : OVERLORD
โดย – กฤษดา
หนังเด่น OVERLORD – บางภาพจากหนังตัวอย่าง (เช่น ภาพทหาร และฝูงเครื่องบิน) อาจทำให้เข้าใจว่าเป็นหนังสงคราม แต่อีกหลายภาพทำให้เข้าใจว่าน่าจะเป็นอย่างอื่นด้วย (เช่น ภาพเหมือนห้องทดลอง และเสียงร้องอย่างน่าหวาดกลัว)
การเป็น “อย่างอื่น” ยังสนับสนุนด้วยภาพใบปิดสีแดง และภาพใบหน้าที่บ่งบอกความหมายไปในทางที่มิใช่ มนุษย์ หรือเป็น “อมนุษย์”
สำหรับผม เมื่อนำภาพและเสียงจากหนังตัวอย่างมาประกอบกับภาพใบปิด ผมคิดไว้ล่วงหน้าว่าอาจจะมีซอมบี้ หรือหนังซอมบี้
แต่จะเป็นซอมบี้แบบไหน อย่างไรนั้น ยากจะคาดเดา
และเมื่อได้ดูฉากแรกๆ ที่บรรยายภาพทหารเตรียมตัวโดดร่ม เพื่อไปบุกทำลายเป้าหมายที่เป็นของกองทัพนาซี หนังย้ำชัดเจนว่านี่คือ หนังสงคราม
โดยเป็นหนังที่มีทหารเป็นตัวละครเอก และตัวละครรอง ฝ่ายตรงข้ามหรือคู่ขัดแย้งก็เป็นทหาร คือทหารเยอรมัน
สถานที่หลักเป็นสนามรบ และมีฉากบรรยายภาพการสู้รบ
แต่เมื่อกลุ่มทหารได้พบซากของสิ่งมีชีวิตที่ยากชี้ชัดว่าเป็นอะไร หนังได้นำคนดูเข้าสู่บรรยากาศอันน่าหวาดกลัว
จนเมื่อได้ไปพบอีกตัวละคร เป็นการยืนยันว่ามีการนำหนังสยองขวัญเข้ามาผสม
จากนั้นหนังจึงได้เปิดเผยให้เห็นว่า “สิ่งนั้น” เป็นอะไรในตอนท้าย
กล่าวได้อย่างสั้นๆ ว่า นี่คือหนังสงครามผสมหนังสยองขวัญ
ซึ่งเมื่อมองตรงส่วนนี้นับว่าเป็นการผสมที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ผมคิดว่า การนำคนดูเข้าสู่บรรยากาศของหนังสยองขวัญนั้นทำได้ดี ทำให้อยากรู้ว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร เกิดจากอะไร มีพลังร้ายแรงขนาดไหน
แต่รู้สึกว่าการ ใช้ประโยชน์จาก “สิ่งนั้น” ยังไม่มากพอ หรือยังไม่เต็มที่ เมื่อได้เห็นมันเต็มตา
ในแง่การเป็นหนังสงคราม หนังนำเสนอภาพการสู้รบอย่างดุเดือดแบบหนังสงครามเต็มรูปแบบ ในแง่หนังสยองขวัญ ก็บรรจุภาพสยดสยองสมควรกับฐานะของหนัง
บางภาพอาจโหดร้ายรุนแรงถึงขั้นคนดูผู้ขาดภูมิต้านทานอาจรู้สึกว่าเกินทน
โดยรวมแล้วหนังดีในแง่การสร้างเรื่องราวให้น่าติดตาม มีงานการกำกับฯ ที่ช่วยให้ตื่นเต้นระทึกใจได้ รวมถึงมีงานการถ่ายทำที่สนับสนุนบรรยากาศได้เหมาะสมตามแนวของหนัง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง